พระพรหมวชิโรดม (สุทัศน์ วรทสฺสี ป.ธ.๙)

ชาติภูมิ

พระพรหมวชิโรดม[4]นามเดิมชื่อ สุทัศน์ ไชยะภา เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2514 บิดาชื่อ นายสา ไชยะภา มารดาชื่อ นางจันทร์ ไชยะภา ภูมิลำเนาเดิม ณ บ้านเลขที่ 152 บ้านราษฎร์นิยม ตำบลโคกตูม อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์

การบรรพชา และอุปสมบท

เมื่อจบประถมศึกษาปีที่ 6 แล้วก็ได้บรรพชาครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2527 โดยมีพระครูวิบูลวุฒิคุณ (ฉลัน) อดีตเจ้าอาวาสวัดตาไก้พลวงและรองเจ้าคณะอำเภอนางรอง เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านจึงเข้าศึกษานักธรรมตรีที่สำนักศาสนศึกษาแห่งนี้ จากนั้นจึงเข้าศึกษาต่อนักธรรมโท-เอก และบาลี ณ วัดกลาง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ภายใต้การปกครองของ พระมงคลวชิรธาดา (บัณฑร ชินวํโส)[5] [6](น.ธ.เอก,อภิธรรมบัณฑิต) เจ้าคณะอำเภอนางรอง(สมัยนั้น) เมื่อสอบประโยค ป.ธ.๔ ได้แล้ว พระมงคลวชิรธาดา (บัณฑร ชินวํโส,น.ธ.เอก,อภิธรรมบัณฑิต) จึงนำมาฝากพระราชเมธี (วรวิทย์) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ รองเจ้าคณะภาค 10 และเจ้าคณะ 8 ขณะนั้น เพื่อเข้าศึกษาต่อ ท่านมีวิริยะอุตสาหะในการศึกษาอย่างยวดยิ่งสามารถสอบผ่านชั้นประโยค ป.ธ.๕ ถึง ป.ธ.๙ โดยไม่สอบตกเลย    ธรรมเนียมวัดมหาธาตุนั้น เมื่อมีสามเณรนวกะเข้ามาอยู่อาศัยแต่ละปี จะต้องผ่านการอบรมกรรมฐาน การอบรมขนบธรรมเนียมประเพณีของวัดมหาธาตุ และบรรพชาใหม่ ท่านจึงได้บรรพชาอีกครั้ง เมื่อวันที่ 4 เดือนกรกฎาคม  พ.ศ. 2533 ณ พระอุโบสถวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร โดยมี พระเดชพระคุณพระสุเมธาธิบดี (บุญเลิศ ทตฺตสุทฺธิ)ป.ธ.๘ อดีตเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ อดีตเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นพระอุปัชฌาย์

เมื่อสอบไล่ได้เปรียญธรรม 6 ประโยค พออายุครบอุปสมบท ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2535 ณ อุโบสถวัดกลาง ตำบลนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีพระพรหมกวี (วรวิทย์ คงฺคปญฺโญ) อดีตเจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยาราม, อดีตเจ้าคณะภาค10 อดีตหัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ 6 ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระราชเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพมหานคร รองเจ้าคณะภาค 10 เป็นพระอุปัชฌาย์ และมีพระธรรมวชิรสุตาภรณ์ (สุพจน์ โชติญาโณ) เจ้าอาวาสวัดกลาง (พระอารามหลวง) ตำบลในเมือง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์, และเจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระครูธีรคุณาธาร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ มีพระมงคลวชิรธาดา (บัณฑร ชินวํโส) เจ้าอาวาสวัดกลาง ตำบลนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ และที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอนางรอง ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่พระครูพิทักษ์ชินวงศ์เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาจากพระอุปัชฌาย์นามว่า” วรทสฺสี “

อุปสมบทแล้ว ก็ศึกษาต่อจนจบ ป.ธ.๙ ที่สำนักเรียนวัดมหาธาตุก็ได้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีปริญญาโท และปฏิบัติหน้าที่ครูสอนในมหาธาตุวิทยาลัยจนถึงปีพุทธศักราช 2540 จึงได้เป็นพระอนุจรติดตามพระเทพปริยัติสุธี (วรวิทย์) ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ไปอยู่วัดโมลีโลกยาราม นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในระยะแรกทำหน้าที่เป็นรองอาจารย์ใหญ่(พ.ศ. 2541-2543) และอาจารย์ใหญ่ (พ.ศ. 2544-ปัจจุบัน) ตามลำดับ ช่วยพระอุปัชฌาย์สอนบาลีและนักธรรมและบูรณปฏิสังขรณ์วัดโมลีโลกยารามตามความสามารถ จนทำให้สำนักเรียนวัดโมลีโลกยารามภายใต้การนำของพระเทพปริยัติสุธี (วรวิทย์) ทะยานขึ้นสู่ อันดับ 1 ของประเทศ ในปัจจุบันนอกจากจะทำงานบริหารการศึกษาของสำนักเรียนแล้ว ท่านยังได้ศึกษาต่อจนจบระดับปริญญาเอกอีกด้วย

วุฒิการศึกษา

งานปกครองบริหารกิจการคณะสงฆ์

  • พ.ศ. 2544 เป็น พระกรรมวาจาจารย์
  • พ.ศ. 2545 เป็น ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร
  • พ.ศ. 2554 เป็น ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร
  • พ.ศ. 2555 เป็น เจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร
  • พ.ศ. 2557 เป็น พระอุปัชฌาย์ (วิสามัญ)
  • พ.ศ. 2557 เป็น เจ้าคณะเขตบางกอกใหญ่
  • พ.ศ. 2557 เป็น รองเจ้าคณะภาค 9
  • พ.ศ. 2564 เป็น เจ้าคณะภาค 10[7]

งานด้านการศึกษา

  • พ.ศ. 2537 เป็น กรรมการตรวจประโยคธรรมสนามหลวง
  • พ.ศ. 2539 เป็น กรรมการตรวจประโยคบาลีสนามหลวง
  • พ.ศ. 2540 เป็น หัวหน้าศูนย์สังฆศาสน์ธำรง ตำบลนนทรี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นศูนย์การศึกษาพระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรมและแผนกบาลีของสำนักเรียนวัดโมลีโลกยาราม
  • พ.ศ. 2541 – พ.ศ. 2543 เป็น รองอาจารย์ใหญ่ สำนักเรียนวัดโมลีโลกยาราม
  • พ.ศ. 2544 เป็น อาจารย์ใหญ่ สำนักเรียนวัดโมลีโลกยาราม
  • พ.ศ. 2552 เป็น ผู้นำประโยคบาลีไปเปิดสอบ ณ หน่วยสอบวัดมหาพุทธาราม (พระอารามหลวง) จังหวัดศรีสะเกษ
  • พ.ศ. 2552 เป็น พระวิทยากรประจำ บรรยายถวายความรู้ เรื่อง “การศาสนศึกษา” แก่พระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะตำบล และเจ้าอาวาสตั้งใหม่ทั่วประเทศ รวมปีละ 5 รุ่น ณ สถาบันพระสังฆาธิการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
  • พ.ศ. 2553 เป็น ผู้นำประโยคบาลีไปเปิดสอบ ณ หน่วยสอบวัดมหาธาตุ จังหวัดยโสธร
  • พ.ศ. 2553 เป็น คณะกรรมการอำนวยการในการสอบธรรมสนามหลวงประจำปี ณ สนามสอบวัดราชสิทธาราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
  • พ.ศ. 2554 เป็น ผู้อำนวยการศูนย์สังฆศาสน์ธำรง ตำบลนนทรี อำเภอกบินทร์บุรีจังหวัดปราจีนบุรี
  • พ.ศ. 2554 เป็น กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฝ่ายวิชาการสำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง
  • พ.ศ. 2554 -พ.ศ. 2555 เป็น คณะกรรมการอำนวยการในการสอบบาลีสนามหลวงประจำปี ณ สนามสอบวัดราชสิทธาราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
  • พ.ศ. 2554 เป็น คณะทำงานยกร่างข้อสอบธรรมศึกษา วิชาวินัย
  • พ.ศ. 2555 เป็น ผู้แทนแม่กองธรรมสนามหลวง นำข้อสอบธรรมศึกษาไปเปิดสอบ ณ วัดวชิรธรรมปทีป มลรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
  • พ.ศ. 2555 เป็น ผู้อำนวยการศูนย์มหาบาลีวิชชาลัย ซึ่งเป็นศูนย์ศึกษาภาษาบาลีสำหรับฆราวาสทั่วไป
  • พ.ศ. 2555 เป็น วิทยากรบรรยายถวายความรู้ด้านการบริหารการศึกษาบาลีแก่ครูบาลี และเจ้าสำนักเรียน-เจ้าสำนักศาสนศึกษาทั่วประเทศ โดยกองพุทธศาสนศึกษา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติร่วมกับสำนักงานแม่กองบาลีสนามหลวง
  • พ.ศ. 2555 เป็น วิทยากรบรรยายถวายความรู้วิชา “บาลีไวยากรณ์” แก่ครูสอนบาลีทั่วประเทศ โดยกองพุทธศาสนศึกษา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติร่วมกับสำนักงานแม่กองบาลีสนามหลวง ณ วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร
  • พ.ศ. 2555 เป็น คณะกรรมการพิจารณากำหนดเกณฑ์การคัดเลือกครูสอนพระปริยัติธรรม แผนกบาลีดีเด่นประจำปี
  • พ.ศ. 2556 เป็น กรรมการควบคุมห้องสอบบาลีสนามหลวง ประจำปี ณ สนามสอบวัดกัลยาณมิตร เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
  • พ.ศ. 2565 เป็น รองแม่กองบาลีสนามหลวง ประจำหนตะวันออก
  • พ.ศ. 2565 เป็น ที่ปรึกษาคณะกรรมการประจำวิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด[8]มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ผลงานเชิงประจักษ์

๑. มีผลสอบพระปริยัติธรรมแผนกบาลีได้อันดับที่ ๑ ของสำนักเรียนในกรุงเทพมหานครติดต่อกัน คือ พ.ศ. ๒๕๕๐, ๒๕๕๒, ๒๕๕๓, ๒๕๕๔, ๒๕๕๕, ๒๕๕๖, ๒๕๕๗, ๒๕๕๘, ๒๕๕๙, ๒๕๖๐, ๒๕๖๑, ๒๕๖๒, ๒๕๖๓, ๒๕๖๔, ๒๕๖๕, ๒๕๖๖, ๒๕๖๗

๒. มีผลสอบพระปริยัติธรรมแผนกบาลีได้อันดับที่ ๑ ของประเทศติดต่อกัน คือ พ.ศ. ๒๕๕๙, ๒๕๖๐, ๒๕๖๑, ๒๕๖๒, ๒๕๖๓, ๒๕๖๔ , ๒๕๖๕ , ๒๕๖๖ , ๒๕๖๗

  • เป็นผู้นำการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี หรือบาลีศึกษา ไปเปิดสอนในเรือนจำเป็นครั้งแรก โดยร่วมมือกับกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม  โดยทำการเปิดสอนตั้งแต่พุทธศักราช ๒๕๕๗ จนปัจจุบัน ในเรือนจำหลายแห่ง เช่นเรือนจำแม่สอด จังหวัดตาก เรือนจำบางขวาง ทัณฑสถานหญิงกลาง เป็นต้น  จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ โดยมีผู้ต้องขังสอบพระปริยัติธรรมแผนกบาลี (บาลีศึกษา) ได้จำนวนมากที่สุดในประเทศไทย  นอกจากนั้น ได้ยังเปิดโอกาสให้ฆราวาสเข้ามาศึกษาพระบาลี (บาลีศึกษา) ในสำนักเรียนวัดโมลีโลกยาราม กรุงเทพมหานคร

ผลงานการแต่งตำรา

  • เคล็ดลับวิชาสัมพันธ์ไทย ชั้นประโยค ป.ธ.3 (พ.ศ. 2538)
  • ธรรมศึกษาชั้นตรี ฉบับปรับปรุงตามหลักสูตรใหม่
  • ปัญหาและเฉลยบาลีสนามหลวงชั้นเปรียญเอก (พ.ศ. 2549)
  • หลักสูตรบาลีไวยากรณ์และหลักสัมพันธ์
  • เบญจศีลเบญจธรรม อุดมชีวิตของมนุษย์
  • คู่มือคู่ใจพระคาถาธรรมบท
  • พระธัมมปทัฏฐกถา แปลโดยพยัญชนะภาค1 – ภาค4
  • พระธัมมปทัฏฐกถา แปลโดยพยัญชนะ ภาค5 – ภาค8

รางวัลเกียรติคุณ

ศาสนกิจพิเศษ

สมณศักดิ์

8 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏที่ พระพรหมวชิโรดม ปริยัตยาคมธุรโกศล โสภณสีลสมาจาร บริหารศาสนกิจดิลก ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[13]

พ.ศ. 2538 ทรงตั้งเปรียญธรรม 9 ประโยค ที่ พระมหาสุทัศน์ วรทสฺสี

5 ธันวาคม พ.ศ. 2551 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญที่ พระเมธีวราภรณ์[9]

5 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชปริยัติโมลี ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[10]

12 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพปริยัติโมลี ศรีปริยัติดิลก ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[11]

17 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมราชานุวัตร วิภัชธรรมโกศล โสภณกิจจานุกิจ นิวิฐธรรมสุนทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี

8 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏที่ พระพรหมวชิโรดม ปริยัตยาคมธุรโกศล โสภณสีลสมาจาร บริหารศาสนกิจดิลก ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[13]