ระเบียบมหาเถรสมาคม กำหนดวิธีปฏิบัติในหน้าที่พระอุปัชฌาย์ พ.ศ. ๒๕๔๖

ระเบียบมหาเถรสมาคม

กำหนดวิธีปฏิบัติในหน้าที่พระอุปัชฌาย์

พ.ศ. ๒๕๔๖ [1]

—————

      อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๕ ตรี แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติรคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒ ) พ.ศ. ๒๕๓๕ และในข้อ ๔๑ แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๑๗  (พ.ศ. ๒๕๓๖ ) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระอุปัชฌาย์  มหาเถรสมาคมวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้

      ข้อ ๑ ระเบียบมหาเถรสมาคมนี้เรียกว่า “ระเบียบมหาเถรสมาคมกำหนดวิธีปฏิบัติในหน้าที่พระอุปัชฌาย์ พ.ศ. ๒๕๔๖”

      ข้อ ๒ ระเบียบมหาเถรสมาคมนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในแถลงการณ์คณะสงฆ์เป็นต้นไป

      ข้อ ๓ ตั้งแต่วันใช้ระเบียบมหาเถรสมาคมนี้ ให้ยกเลิกระเบียบมหาเถสมาคม กำหนดวิธีปฏิบัติในหน้าที่อุปัชฌาย์ พ.ศ. ๒๕๓๗

หมวด ๑
การฝึกซ้อมอบรมหรือสอบความรู้พระอุปัชฌาย์

      ข้อ ๔ ในการฝึกซ้อมอบรมหรือสอบความรู้พระอุปัชฌาย์  ให้ดาเนินการตามหัวข้อต่อไปนี้

             (๑)  หน้าที่เจ้านาค เช่นการขานนาค

             (๒) หน้าที่พระกรรมวาจารย์ เช่นสวดญัตติ อนุสาวนา ได้คล่องแคล่ว เป็นอักษรสมบัติ

             (๓) หน้าที่พระอุปัชฌาย์ คือ สอนนาค สอนกรรมฐาน ให้ผ้า ให้นิสัย บอกบริขาร เผดียงสงฆ์ ซึ่งเรียกว่าอปโลกน์ และบอกอนุศาสน์

             (๔) สมบัติคือ วัตถุ สีมา ปริส กรรมวาจา และวิบัติซึ่งตรงกันข้าม

             (๕) อัฏฐบริขารที่สำคัญขาดไม่ได้

             (๖) การนับอายุอุปสัมปทาเปกข์ และการตั้งฉายาตามวันเกิด

             (๗) การสวดนาคเดี่ยว หรือหลายนาค ต้องสมมติให้สวด เพื่อรู้จักเปลี่ยนวิภัตติและการันต์เฉพาะที่ใช้ในกรรมวาจา

             (๘) การนับเวลาสำเร็จญัตติจตุตถกรรมและการออกหนังสุทธิ

             (๙) หน้าที่พระอุปัชฌาย์ตามหนังสือวินัยมุข และกฎมหาเถรสมาคม ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระอุปัชฌาย์

      ข้อ ๕ ถ้ามิได้กำหนดเป็นอย่างอื่น การฝึกซ้อมอบรมนั้นให้เป็นไปตามวิธีการให้บรรพชาอุปสมบท และใบรับรองผู้บรรพชาอุปสมบท ให้ทำตามแบบท้ายระเบียบมหาเถรสมาคมนี้

หมวด ๒
การทำใบสมัครและใบรับรองผู้จะบรรพชาอุปสมบท

      ข้อ ๖ ในการทำใบสมัครขอบรรพชาอุปสมบท และใบรับรองผู้บรรพชาอุปสมบท ให้ทำตามแบบท้ายระเบียบมหาเถรสมาคมนี้

หมวด ๓
การออกหนังสือสุทธิให้แก่สัทธิวิหาริก

      ข้อ ๗  หนังสือสุทธิที่พระอุปัชฌาย์ออกให้แก่สัทธิวิหาริกของตน ให้ใช้หนังสือสุทธิ ซึ่งสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติจัดพิมพ์โดยอนุมัติมหาเถรสมาคม ตามแบบหนังสือสุทธิท้ายระเบียบมหาถรสมาคมนี้

      ข้อ ๘ เมื่อพระอุปัชฌาย์ออกหนังสือสุทธิให้แก่สัทธิวิหาริกผู้ใดแล้วให้บันทึกรายการ ในหนังสือสุทธิของสัทธิวิหาริกผู้นั้นไว้เป็นหลักฐานในทะเบียนสัทธิวิหาริก

หมวด ๔
การส่งบัญชีสัทธิวิหาริก

      ข้อ ๙ ให้พระอุปัชฌาย์ทำบัญชีสัทธิวิหาริกของตนที่บรรพชาอุปสมบทใหม่ในปีหนึ่ง ๆ ส่งพระสังฆาธิการผู้บังคับบัญชาเหนือตามกำหนด ดังนี้

             (๑)  ส่งเจ้าคณะอำเภอก่อนวันสิ้นเดือน ๙ ของปี

             (๒) เจ้าคณะอำเภอรวบรวมส่งเจ้าคณะจังหวัดก่อนวันกลางเดือน ๑๐ ของปี

             (๓) เจ้าคณะจังหวัดรวบรวมส่งเจ้าคณะภาคก่อนวันสิ้นเดือน ๑๐ ของปี

             (๔) เจ้าคณะภาครวบรวมส่งเจ้าคณะใหญ่ก่อนวันกลางเดือน ๑๑ ของปี

      ข้อ ๑๐ ในการทำบัญชีสัทธิวิหาริก ให้ทำตามแบบบัญชีท้ายระเบียบมหาเถรสมาคมนี้

      ประกาศ ณ วันที่ ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖

สมเด็จพระญาณสังวร

(สมเด็จพระญาณสังวร)

สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม


[1]  จากแถลงการณ์คณะสงฆ เล่ม ๙๑ ตอนที่ ๗ :  ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๔๖