“รุมมวดีฉันท์” เป็นชื่อที่เรียกตามแบบไทย แต่ในคัมภีร์วุตโตทัย ท่านเรียกว่า “รุมมวดีคาถา” จัดเป็นปันติฉันท์ ฯ “รุมมวดี” แปลว่า “คาถาที่มีเสียงไพเราะเพราะมีครุทั้งต้นและปลาย” เป็นคาถา ๔ บาท ๆ ละ ๑๐ คำ มีสูตรว่า “ภฺมา สคยุตฺตา รุมฺมวตี สา” แปลความว่า “คาถาที่มี ภ คณะ ม คณะ ส คณะ และครุลอย ชื่อว่า “รุมมวดี”
ในการบัญญัติฉันท์ไทยนั้น ท่านนำสูตรดังกล่าวมาเป็นสูตร โดยนำมาเพียง ๒ บาท แล้วปรับปรุงให้เป็น ๔ วรรค เพราะมีบาทละ ๑๐ คำ จึงเรียกว่า “ฉันท์ ๑๐” แล้วเพิ่มสัมผัสเข้า คือ คำสุดท้ายของวรรคที่ ๑ ส่งสัมผัสไปยังคำที่ ๑ ของวรรคที่ ๒, คำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ ส่งสัมผัสไปยังคำสุดท้ายของวรรคที่ ๓, และคำสุดท้ายของวรรคที่ ๔ ส่งสัมผัสไปยังคำที่พร้อมจะรับในบทที่จะแต่งต่อไป มีแผนผังและตัวอย่างดังนี้

