หมวดที่ ๔ ว่าด้วยเจ้าอาวาส

หมวดที่ ๔

ว่าด้วยเจ้าอาวาส

—————

      มาตรา ๑๐ กำหนดหลักเกณฑ์มีเจ้าอาวาส

           ๑) วัดหนึ่งให้มีพระภิกษุเป็นเจ้าอาวาสรูปหนึ่ง

           ๒) การเลือกสรรและตั้งเจ้าอาวาส

              (๑) พระอารามหลวง แล้วแต่จะทรงพระราชดำริเห็นสมควร

              (๒) แม้อารามราษฎร์และที่สำนักสงฆ์แห่งใด ถ้าทรงพระราชดำริเห็นสมควร ก็ทรงเลือกสรรและตั้งเจ้าอาวาสได้

      มาตรา ๑๑ กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตั้งเจ้าอาวาสวัด ในจังหวัดกรุงเทพ ฯ

           ๑) วัดหลวงก็ดี วัดราษฎร์ก็ดี ที่ไม่ทรงเลือกสรรและตั้งเจ้าอาวาส

                (๑) ให้พระราชาคณะผู้กำกับแขวงปรึกษาสงฆ์และสัปบุรุษทายกวัดนั้น เลือกสรรพระภิกษุผู้สมควรเป็นเจ้าอาวาส

                (๒) ถ้าเห็นสมควรในรูปใด ก็ให้ตั้งรูปนั้นเป็นเจ้าอาวาส

                (๓) ตราตั้งนั้นต้องให้ผู้บัญชาการกระทรวงธรรมการ ประทับตราเป็นสำคัญทางฝ่ายราชอาณาจักรด้วย

      มาตรา ๑๒ กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตั้งเจ้าอาวาสวัดในหัวเมือง

           ๑)  วัดซึ่งไม่ทรงเลือกและตั้งเอง

                (๑) ให้เจ้าคณะแขวงปรึกษาสงฆ์และสัปบุรุษทายกวัดนั้นเลือกสรร

                (๒) ถ้าเห็นพร้อมกันในรูปใดรูปหนึ่ง หรือถ้าเห็นแตกต่างกันในหลายรูป

                (๓) ให้เจ้าคณะแขวงนำความเสนอต่อเจ้าคณะเมือง

                (๔) เจ้าคณะเมืองเห็นว่ารูปใดสมควร ก็ให้ทำตราตั้งรูปนั้น

                (๕) ตราตั้งนั้นต้องให้ผู้ว่าราชการเมืองประทับตราตำแหน่งเป็นสำคัญในฝ่ายราชอาณาจักรด้วย

           ๒) เจ้าอาวาสทั้งปวง ถ้าไม่มีสมณศักดิ์อื่น ก็ให้มีสมณศักดิ์เป็น “อธิการ”

      ในสมัยนั้น กำหนดชัดให้เจ้าอาวาสที่ไม่มีสมณศักดิ์อื่น ให้เป็น “อธิการ” รวมกับคำว่า “พระ” เป็น “พระอธิการ” ใช้เป็นคำเรียกเจ้าอาวาสมาจนบัดนี้

      มาตรา ๑๓ กำหนดหน้าที่เจ้าอาวาส ไว้ ๙ อย่าง คือ

           ๑) ทำนุบำรุงรักษาวัด ตามกำลังความสามารถ

           ๒) ตรวจตราอย่าให้วัดนั้นเป็นที่พำนักแอบแฝงของโจรผู้ร้าย

           ๓) ปกครองบรรพชิตและคฤหัสถ์ซึ่งอาศัยอยู่ในวัดนั้น

           ๔) รักษาความเรียบร้อยและระงับอธิกรณ์ในหมู่บรรพชิตและคฤหัสถ์ในวัดนั้น

           ๕) เป็นธุระสั่งสอนพระศาสนาแก่บรรพชิตและคฤหัสถ์ให้เจริญในสัมมาปฏิบัติ

           ๖) เป็นธุระให้กุลบุตรซึ่งอาศัยเป็นศิษย์อยู่ในวัดให้ได้ร่ำเรียนวิชาคุณ

           ๗) เป็นธุระแก่สัปบุรุษและทายกผู้มาทำบุญในวัด ได้ทำบุญโดยสะดวก

           ๘) ทำบัญชีบรรพชิตและคฤหัสถ์ผู้อาศัยวัด รายงานการวัดต่อเจ้าคณะ

           ๙) ถ้าพระภิกษุสามเณรในวัดจะไปอยู่วัดอื่นหรือเดินทางไกล ต้องให้หนังสือสุทธิเป็นสำคัญ เว้นแต่เห็นว่าจะไปประพฤติอนาจาร แต่ต้องแจ้งเหตุให้รูปนั้นทราบ

      มาตรา ๑๔ กำหนดให้เป็นหน้าที่ของบรรพชิตและคฤหัสถ์ผู้อาศัยวัดจะต้องช่วยเจ้าอาวาสในการทั้งปวงอันเป็นภาระของเจ้าอาวาส

      มาตรา ๑๕ กำหนดให้พระภิกษุสามเณร ต้องมีสังกัดในบัญชีวัดใดวัดหนึ่งทุกรูป

      มาตรา ๑๖ กำหนดให้คฤหัสถ์ซึ่งอยู่อาศัยในวัด ย่อมมีหน้าที่และความรับผิดชอบ ต่อพระราชกำหนดกฎหมายเหมือนพลเมืองทั้งปวง มิได้รับการยกเว้น เช่น ถูกเรียกเข้ารับราชการทหาร ต้องเสียเงินค่ารัชชูปการ ถูกเรียกเป็นพยานต้องไปเบิกความที่ศาล มิได้รับการยกเว้นดุจพระภิกษุ

      มาตรา ๑๗ กำหนดให้เจ้าอาวาสมีอำนาจ ดังนี้

           ๑) มีอำนาจที่จะบังคับว่ากล่าวบรรพชิตและคฤหัสถ์ซึ่งอยู่อาศัยในวัดนั้น

           ๒) อธิกรณ์เกิดขึ้นในวัด ถ้าเป็นความตามลำพังพระวินัย ให้มีอำนาจพิพากษาได้ ถ้าเป็นความแพ่ง คู่ความยินยอมให้เปรียบเทียบก็เปรียบเทียบได้

           ๓) บรรพชิตก็ดี คฤหัสถ์ก็ดี มิได้รับอนุญาตจากเจ้าอาวาส จะเข้าไปบวช หรือไปอยู่ในวัดนั้นไม่ได้

           ๔) บรรพชิตก็ดี คฤหัสถ์ก็ดี ที่อยู่ในวัดนั้น ถ้าไม่อยู่ในโอวาทของเจ้าอาวาสเจ้าอาวาสจะไม่ให้อยู่ในวัดนั้นก็ได้

           ๕) ถ้าเจ้าอาวาสบังคับการอันชอบด้วยพระวินัย หรือพระราชบัญญัติ และ พระภิกษุสามเณรในวัด ไม่กระทำตามหรือหมิ่นประมาทเจ้าอาวาส เจ้าอาวาสมีอำนาจที่จะทำทัณฑกรรมได้

           ๖) ถ้าเจ้าอาวาสกระทำการตามหน้าที่ โดยชอบด้วยพระราชกำหนดกฎหมายและถ้าคฤหัสถ์ผู้ใดขัดขืน หรือลบล้างอำนาจ หรือหมิ่นประมาทเจ้าอาวาส ผู้นั้นมีความผิด ต้องระวางโทษปรับครั้งหนึ่ง เป็นเงินไม่เกิน ๒๐ บาท หรือจำขังหนึ่งเดือน หรือทั้งปรับทั้งจำ

      มาตรา ๑๘ กำหนดการอุทธรณ์คำสั่งของเจ้าอาวาส

           ๑) ในจังหวัดกรุงเทพ ฯ ให้อุทธรณ์ต่อพระราชาคณะผู้กำกับแขวง

           ๒) ในหัวเมือง ให้อุทธรณ์ต่อเจ้าคณะแขวง     

      มาตรา ๑๙ กำหนดให้ตั้งรองเจ้าอาวาสได้ ในกรณีที่

           ๑) วัดมีสงฆ์จำนวนมาก หรือ

           ๒) เจ้าอาวาสไม่สามารถทำตามหน้าที่ได้ทุกอย่างเพราะชราภาพ

     วัดในจังหวัดกรุงเทพ ฯ ให้พระราชาคณะผู้กำกับแขวง ตั้งพระภิกษุรูปใดรูปใดรูปหนึ่งเป็นรองเจ้าอาวาส รับภาระทั้งปวง หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ช่วยเจ้าอาวาส

     ให้รองเจ้าอาวาสมีอำนาจหน้าที่เท่าที่ผู้ตั้งมอบ แต่ต้องไม่เกินอำนาจเจ้าอาวาส หรือทำการฝ่าฝืนอนุมัติเจ้าอาวาสมิได้

     ถ้าวัดในหัวเมือง ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าคณะเมือง ที่จะตั้งรองเจ้าอาวาสเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส การใช้อำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับรองเจ้าอาวาสในจังหวัดกรุงเทพ ฯ

     รองเจ้าอาวาสนี้ ถ้าไม่มีสมณศักดิ์ที่สูงกว่า ให้มีสมณศักดิ์เป็น “รองอธิการ” แต่ในปัจจุบันมิได้ใช้คำนี้