หมวดที่ ๗
ว่าด้วยคณะมณฑล
——————————–
มาตรา ๓๕ กำหนดเจ้าคณะมณฑล :- หัวเมืองมณฑลหนึ่ง จะทรงตั้งพระราชาคณะผู้ใหญ่เป็นเจ้าคณะมณฑล ๑ รูป ตามแต่จะทรงพระราชดำริเห็นสมควร
มาตรา ๓๖ กำหนดเจ้าคณะรอง ถ้ามณฑลใดมีวัดมาก จะทรงพระกรุณาโปรดให้มีพระราชาคณะเป็นเจ้าคณะรอง ผู้ช่วยภาระมณฑลนั้นอีก ๑ รูป หรือหลายรูป ตามที่จะทรงพระราชดำริเห็นสมสมควร
มาตรา ๓๗ กำหนดหน้าที่เจ้าคณะมณฑล
๑) ที่จะรับพระราชานุมัติ ไปจัดการทำนุบำรุงพระศาสนา และบำรุงการศึกษาตามวัดในมณฑลนั้น ให้เจริญรุ่งเรืองตามพระราชประสงค์
๒) ที่จะออกไปตรวจตราการคณะสงฆ์และการศึกษาในมณฑลนั้น ๆ เป็นครั้งคราว
๓) ที่จะตั้งพระครูเป็นเจ้าคณะแขวงตามหัวเมืองในมณฑลนั้น ซึ่งยังมิได้รับพระราชทานสัญญาบัตร
๔) ที่จะช่วยแก้ไขข้อขัดข้อง ของเจ้าคณะเมืองในมณฑลนั้น
มาตรา ๓๘ กำหนดอำนาจเจ้าคณะมณฑล
๑) ที่จะบังคับบัญชาพระภิกษุสามเณรทั่วทั้งมณฑลนั้น ในกิจอันชอบด้วยพระวินัยบัญญัติและพระราชบัญญัติ
๒) ที่จะมอบให้เจ้าคณะรองออกไปตรวจจัดการในมณฑลได้ ตามเห็น
สมควร แต่ไม่เกินอำนาจและฝ่าฝืนอนุมัติของเจ้าคณะมณฑล
๓) ผู้มีตำแหน่งสมณศักดิ์ชั้นใด ๆ ในมณฑลนั้น เว้นแต่ที่เป็นพระครูสัญญาบัตรแล้ว ไม่สมควรอยู่ในตำแหน่ง เพราะความประพฤติหรือเพราะขาดความสามารถ มีอำนาจเอาออกจากตำแหน่งได้
๔) ที่จะตัดสินข้ออุทธรณ์ คำสั่ง หรือคำวินิจฉัยของเจ้าคณะเมือง
มาตรา ๓๙ กำหนดฐานานุศักดิ์ เจ้าคณะมณฑลตั้งฐานานุกรมได้ ๖ คือ พระครูปลัด ๑ พระครูวินัยธร ๑ พระครูวินัยธรรม ๑ พระสังฆรักษ์ ๑ พระสมุห์ ๑ พระใบฎีกา ๑ ถ้าฐานานุกรมเดิมมีตำแหน่งใด ไม่ต้องตั้งตำแหน่งนั้น
Views: 16