หมวด ๔ วัด

หมวด  ๔

วัด

—————–

      มาตรา ๓๘ กำหนดวัด.- ว่าวัดมีสองอย่าง

          ๑) วัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาแล้ว

          ๒) สำนักสงฆ์

      มาตรา ๓๙ กำหนดว่า การสร้าง การตั้ง การรวม การโอน การย้ายและการยุบเลิกวัดให้เป็นไปตามกฎกระทรวง

      การพระราชทานวิสุงคามสีมา ให้กระทำได้โดยพระบรมราชโองการ

      ในมาตรา ๓๙ กำหนดการโอนวัดไว้ด้วย แต่การพระราชทานวิสุงคามสีมาได้กระทำโดยพระบรมราชโองการ ลดลงจากเดิมเมื่อใช้พระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. ๑๒๑ มีพระราชบัญญัติกำหนดให้ตราเป็นพระราชบัญญัติ

      มาตรา ๔๐ ที่วัดและที่ซึ่งขึ้นต่อวัด มีดังนี้

           ๑) ที่วัด คือที่ซึ่งตั้งวัดตลอดจนเขตวัดนั้น

           ๒) ที่ธรณีสงฆ์ คือที่ซึ่งเป็นสมบัติของวัด

           ๓) ที่กัลปนา คือที่ซึ่งมีผู้อุทิศแต่ผลประโยชน์ให้วัดหรือพระศาสนา

      มาตรา ๔๑ กำหนดหลักพิทักษ์ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ไว้ชัดเจน.- ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์จะโอนกรรมสิทธิ์ได้แต่โดยพระราชบัญญัติ

     ในมาตรา ๔๑ นี้ เป็นการสร้างปราการให้ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์เช่นเดียวกับในมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. ๑๒๑ แต่ผ่อนผันให้กระทำได้โดยพระราชบัญญัติ

     มาตรา ๔๒ กำหนดผู้ปกครองวัด.- วัดหนึ่งให้ มี

           ๑) เจ้าอาวาสรูปเดียว

           ๒) รองเจ้าอาวาสหรือผู้ช่วยเจ้าอาวาสรูปหนึ่งหรือหลายรูปก็ได้

     ในมาตรา ๔๒ นี้ กำหนดให้มีได้ทั้งเจ้าอาวาสทั้งรองเจ้าอาวาส และผู้ช่วยเจ้าอาวาส  แต่ในพระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. ๑๒๑ กำหนดให้มีเฉพาะเจ้าอาวาสและรองเจ้าอาวาสเท่านั้น

     มาตรา ๔๓ กำหนดหน้าที่เจ้าอาวาสไว้ ดังนี้.-

           ๑) บำรุงรักษา จัดการวัดและสมบัติของวัด ให้เป็นไปโดยเรียบร้อย ตามสังฆาณัติ กติกาสงฆ์ กฎองค์การ กฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบ

           ๒) ปกครองและสอดส่องให้บรรพชิตและคฤหัสถ์ที่มีถิ่นที่อยู่หรือพำนักอาศัยอยู่ในวัดนั้น ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย สังฆาณัติ กติกาสงฆ์ กฎองค์การ กฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบ

           ๓) เป็นธุระในการศึกษาอบรมและสั่งสอนพระธรรมวินัย แก่บรรพชิตตลอดจนคฤหัสถ์

           ๔) ให้ความสะดวกตามสมควรในการบำเพ็ญกุศล

     ความในมาตรา ๔๓ นี้มีนัยคล้ายกับความในมาตรา ๓๗ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕

     มาตรา ๔๔ กำหนดอำนาจเจ้าอาวาสไว้ดังนี้.-

           ๑) ห้ามบรรพชิตและคฤหัสถ์ซึ่งมิได้รับอนุญาตของเจ้าอาวาสเข้าไปอยู่ในวัดนั้น

           ๒) ขับไล่บรรพชิตและคฤหัสถ์ซึ่งไม่อยู่ในโอวาทของเจ้าอาวาสออกไปจากวัดนั้น

           ๓) กระทำทัณฑกรรมแก่บรรพชิตหรือคฤหัสถ์ที่มีถิ่นที่อยู่หรือพำนักอาศัยในวัดนั้น ให้ทำงานภายในวัด หรือให้ทำทัณฑ์บน หรือให้ขอขมาโทษ ในเมื่อบรรพชิตหรือคฤหัสถ์ในวัดนั้นประพฤติผิดคำสั่งของเจ้าอาวาส ซึ่งได้สั่งโดยชอบด้วยพระธรรมวินัย สังฆาณัติ กติกาสงฆ์ กฎองค์การ กฎหมาย ข้อบังคับ หรือระเบียบ

     ความในมาตรา ๔๔ มีนัยคล้ายกับมาตรา ๓๘ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แต่ข้อสุดท้ายกำหนดเฉพาะการลงโทษ

     มาตรา ๔๕ บรรพชิตต้องมีสังกัดอยู่ในวัดใดวัดหนึ่งและมีถิ่นที่อยู่เป็นหลักแหล่ง

     ในมาตรา ๔๕ นี้เป็นอันบังคับให้บรรพชิตต้องมีสังกัดวัดอย่างชัดเจนและอยู่อย่างเป็นหลักแหล่ง นับเป็นบทบัญญัติรัดกุม