หมวด ๗
บทกำหนดโทษ
—————–
คำว่า “โทษ” ในหมวดนี้ เป็นโทษทางอาญาต่างจากโทษทางพระวินัย โทษอาญาในหมวดนี้ อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับการฝ่าฝืนการนิคหกรรมและสละสมณเพศ เกี่ยวกับการที่เคยต้องอาบัติปาราชิก และเกี่ยวกับคณะสงฆ์บัญญัติไว้เพื่อป้องกันความเสื่อมเสียอันอาจเกิดขึ้นแก่คณะสงฆ์ และให้ความสะดวกแก่เจ้าคณะ เจ้าอาวาส และเจ้าหน้าที่ฝ่ายราชอาณาจักร ที่จะช่วยอุปถัมภ์การคณะสงฆ์ มีบทบัญญัติ ๓ มาตรา คือ
๔๐. มาตรา ๔๒ โทษฐานฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคณะสงฆ์
๑) หลักเกณฑ์ เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง
(๑) ฝ่าฝืนคำวินิจฉัยลงนิคหกรรมให้สึก (มาตรา ๒๖)
(๒) ฝ่าฝืนคำสั่งมหาเถรสมาคมให้สละสมณเพศ (มาตรา ๒๗/๒)
(๓) ฝ่าฝืนคำพิพากษาของศาลเมื่อถูกพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย มาตรา ๒๘
๒) กำหนดโทษ
(๑) จำคุกไม่เกินหกเดือน
(๒) เจ้าหน้าที่ฝ่ายอาณาจักรเป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมายแผ่นดิน
๔๑. มาตรา ๔๓ ความผิดฐานต้องอาบัติปาราชิกแล้ว
๑) หลักเกณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่ง
(๑) ต้องปาราชิกแล้ว เข้ารับการบรรพชาอุปสมบทโดยปิดบังความจริง
(๒) ต้องปาราชิกแล้วไม่สละการแต่งกายแบบบรรพชิต
๒) กำหนดโทษ
(๑) จำคุกไม่เกินหกเดือน
(๒) เป็นอำนาจหน้าที่ทางราชอาณาจักรที่จะดำเนินการตามกฎหมาย
๔๒. มาตรา ๔๔ ฐานใส่ความคณะสงฆ์ไทย
๑) หลักเกณฑ์ ใส่ความคณะสงฆ์ไทย โดยลักษณะ
(๑) อันอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสีย หรือ
(๒) อันอาจก่อให้เกิดการแตกแยก
๒) กำหนดโทษ
(๑) ปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือ
(๒) จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือ
(๓) ทั้งจำทั้งปรับ
(๔) เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายราชอาณาจักรดำเนินการตามกฎหมาย
๓) คณะสงฆ์ไทย หมายถึง คณะมหานิกาย ๑ คณะธรรมยุต ๑ ที่เรียกว่า “เถรวาท” “หีนยาน” หรือ “ทักษิณนิกาย” คำว่า “เถรวาท” นิยมใช้
Views: 5