นายมนู ช่างสุพรรณ บรรยายมาตรา ๒๐-๒๓

นายมนู ช่างสุพรรณ บรรยายมาตรา ๒๐-๒๓

     ลำดับที่ ๓ ว่าด้วยการปกครองคณะสงฆ์ มาตราที่ ๒๐ การจัดระเบียบการปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปตามกฎระเบียบมหาเถรสมาคม อันนี้ ก็มีการสอดคล้องในมาตราที่ ๑๘ ที่ว่ามหาเถรสมามีอำนาจหน้าที่ปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปโดยเรียบร้อย เมื่อจะปกครองอย่างไร ในส่วนกลางจะเอาอย่างไร หรือส่วนภูมิภาคจะเอาอย่างไร ซึ่งในกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ ๔ ว่าด้วยการจัดระเบียบการปกครองคณะสงฆ์ ได้แบ่งการปกครองออกในส่วนกลางก็มีเจ้าคณะใหญ่ช่วยบริหารงานสืบจากมหเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่แบ่งออกเป็น ๔ หน เรียกว่าเป็นสิทธิที่แบ่งออกได้จากคณะสงฆ์ไทย ในตัวกฎหมายไม่มี แต่มาแยกกันโดยกฎมหาเถรสมาคมว่า มีเจ้าคณะใหญ่ หนกลาง หนเหนือ หนใต้ หนตะวันออก และเจ้าคณะใหญ่คณะธธรรมยุต อันนี้ มาแยกกันอยู่ในกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ ๔ นี้ ส่วนระเบียบการปกครองก็มีการแบ่งการปกครอง ด้านรักษาความเรียบร้อยดีงามของคณะสงฆ์ ด้านการศึกษา ด้านการเผยแผ่ อันนี้ พระเดชพระคุณก็ได้ขยายความไว้แล้ว ในส่วนภูมิภาคกำหนดไว้เลยว่า ในส่วนภูมิภาค คณะสงฆ์จะต้องปฏิบัติหน้าที่ จะต้องจัดการปกครองให้เป็นไปตามกฎหมาย คือในขั้นแรกต้องแบ่งเขตการปกครองเสียก่อน กฎหมายได้ให้แบ่งการปกครองออกเป็นภาค การปกครองที่แบ่งออกเป็นภาค ได้แก่ หลาย ๆ จังหวัดรวมกันขึ้นอยู่ในกลุ่มการปกครองเดียวกัน เรียกว่า ภาค ซึ่งในปัจจุนี้ ก็มีบางภาคมี ๓ จังหวัด ๕-๖ จังหวัด ก็แล้วแต่ความหนาแน่น อันนี้บัญญัติขึ้นตามความหนาแน่นของวัดวาอารามและพระภิกษุ และสภาพความเหมาะสมทางภูมิศาสตร์กลุ่มจังหวัดใดควรจะขึ้นอยู่ในเขตของภาคใด อันนี้ก็แบ่งออกแล้วในภาคนั้น ๆ กลุ่มภาคนั้น ๆ มีกี่ภาค จำนวนกี่ภาคควรจะขึ้นอยู่ในคณะสงฆ์หนใด การแบ่งภาคก็แบ่งออกไป ภาค ๑ ในกรุงเทพมหานคร ก็แบ่งย้อนขึ้นไปทางเหนือ ภาค ๑ ก็อยู่ทางกรุงเทพ ภาค ๒ ก็เหนือขึ้นมา ภาค ๓ ก็เหนือขึ้นมาอีก โดยจัดลำดับจนถึง ๔-๕-๖-๗ ก็เหนือสุด พอมาภาค ๘-๙-๑๐-๑๑ ก็ย้อนมาทางตะวันออก ภาค ๑๒ ก็ยังอยู่หนตะวันออก ก็ย้อนเข้าหนกลาง ภาค ๑๓-๑๔-๑๕ ยังอยู่ในหนกลาง แล้วย้อนลงไปหนใต้ ภาค ๑๖-๑๗-๑๘ แบ่งออกเป็น ๑๘ ภาค แต่ละภาคนี้กฎหมายมิได้กำหนดไว้ ส่วนอันดับที่ ๒ คือการปกครองในภูมิภาคอันเป็นการปกครองส่วนที่ ๒ ก็ได้แก่จังหวัด ระดับจังหวัดนี้ มหาเถรสมาคมได้กำหนดว่า การปกครองเขตจังหวัดอำนาจการปกครองของแต่ละจังหวัด ให้อยู่ในขอบเขตแต่ละจังหวัด จังหวัดในทางบ้านเมือง บ้านเมืองมีอาณาเขตแค่ไหนอำนาจของการปกครองของเจ้าคณะจังหวัดนั้น ๆ ก็ครอบครองได้เฉพาะอาณาเขตที่ทางบานเมืองกำหนดไว้เท่านั้น ในอำเภอก็เช่นเดียวกัน ว่าอำเภอใด มีอาณาเขตทางฝ่ายบ้านเมือง ครอบคุมพื้นที่เพียงใด เขตอำเภอทางคณะสงฆ์ ก็มีเขตการปกครองครอบคุมเพียงนั้น ไม่เกินกว่าเขา สำหรับตำบลทางฝ่ายบ้านเมืองมีอาณาเขตอย่างไร ตำบลในฝ่ายคณะสงฆ์ก็แบ่งออกอย่างนั้นเว้นแต่ว่ามีตำบลที่ใหญ่ มีความหนาแน่นของวัดและจะนวนพระภิกษุมาก ก็อาจจะให้แบ่งเขตตำบลออกเป็น ๒ เขต หรือ ๓ เขต ก็แล้วแต่ อันนี้ ท่านก็ได้กำหนดไว้ในระเบียบมหาเถรสมาคมแล้ว

          มาตรา ๒๒ การปกครองของคณะสงฆ์ส่วนถูมิภาค มีลำดับการปกครองตามลำดับต่อไปนี้ อันนี้ เป็นการกำหนดตำแหน่งผู้ปกครองคณะสงฆ์  กฎหมายกำหนดให้ว่า  ผู้ปกครองคณะสงฆ์ตามลำดับนั้น  แต่ละชั้นๆ ในส่วนภูมิภาคนั้น  มีอะไรบ้าง  ก็กำหนดไว้ให้มีเจ้าคณะภาค  เจ้าคณะภาคจะมีหน้าที่รับผิดชอบปกครองคณะสงฆ์ในเขตภาคของตน ๆ  ตามที่กำหนดในกฎมหาเถรสมาคมว่าภาคนั้นอยู่ในจังหวัดใดบ้าง  จังหวัดใดขึ้นอยู่บ้าง จังหวัดมีหน้ามี่ปกครองคณะสงฆ์ ในเขตจังหวัดดังที่กล่าวแล้ว จะมีอำนาจเกินจากจังหวัดไปไม่ได้ มีอำนาจเฉพาะในเขตจังหวัดของตน จังหวัดบ้านเมืองมีขอบเขตแค่ไหน จังหวัดฝ่ายคณะสงฆ์ก็มีอำนาจและขอบเขตเท่านั้น เจ้าคณะอำเภอและเจ้าคณะตำบลก็เช่นเดียวกัน ทีนี้ในกรณีที่เมื่อมีเจ้าคณะแล้ว ถ้ามหาเถรสมาคมเห็นสมควรให้มีรองเจ้าคณะ รองเจ้าคณะในระดับต่าง ๆ กัน เช่น รองเจ้าคณะภาค รองเจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะตำบล เป็นผู้ช่วยเหลือในการปฏิบัติงานคณะสงฆ์ ในคณะนั้น ๆ ก็ได้เป็นผู้ช่วยเหลือ นะครับ อันนี้ เป็นเรื่องที่ว่าบางภาคเป็นภาคใหญ่ มีพระสงฆ์มาก มีจำนวนวัดมาก บางภาคก็มีรองเจ้าคณะภาคถึง ๒ รูป บางภาคก็มีรูปเดียว ส่วนเจ้าคณะจังหวัดก็มีเหมือนกัน ในบางจังหวัดที่จังหวัดใหญ่ ๆ มีวัดมาก ก็กำหนดให้ว่า ให้มีรองเจ้าคณะจังหวัดได้ ถ้ามีมากจริง ๆ ก็ให้มีรองจังหวัด ๒ รูป อำเภอก็เช่นเดียวกัน เพราะในเขตอำเภอหนึ่งมิได้แบ่งให้เป็นอำเภอ เขต ๑ อำเภอ เขต ๒ ถ้าอำเภอใหญ่ มีวัดมาก ก็อาจจะมีรองเจ้าคณะอำเภอได้ ๒ รูป บางอำเภอก็มีรองเจ้าคณะอำเภอได้ ๑ รูป บางอำเภอก็ไม่มี บางอำเภอก็มีได้ ถึง ๒ รูป อันนี้ ก็แล้วแต่จำนวนที่กำหนดไว้ในระเบียบซึ่งถือเป็นหลักปฏิบัติ

          ถัดมาก็ถึงมาตรา ๒๓ ซึ่งมีความว่า การแต่งตั้งถอดถอนพระอุปัชฌาย์ เจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส พระภิกษุอันเกี่ยวกับตำแหน่งปกครองคณะสงฆ์อื่น ๆ และไวยาวัจกร ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎมหาเถรสมาคม

          อันนี้ เป็นเรื่องให้อำนาจแก่มหาเถรสมาคม ว่าจะดำเนินการแต่งตั้งและถอดถอนพระอุปัชฌาย์อย่างไร รวมทั้งเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส และผู้ช่วยเจ้าอาวาส จะแต่งตั้งและถอดถอนอย่างไร สำหรับตำแหน่งพระภิกษุอันเกี่ยวกับตำแหน่งปกครองคณะสงฆ์ตำแหน่งอื่น ๆ ก็มีตำแหน่งเจาคณะภาค รองเจ้าคณะภาค เรื่อยลงมาจนถึงตำแหน่งเจ้าคณะตำบล รองเจ้าคณะตำบล จะดำเนินการแต่งตั้งและถอดถอนอย่างไร ก็ให้กำหนดไว้ในกฎมหาเถรสมาคม ว่าการแต่งตั้งและถอดถอนเจ้าอาวาสจะให้ดำเนินการอย่างไร การแต่งตั้งเจ้าคณะภาค จะให้ใครเป็นมีอำนาจอย่างไร หรือใครมีอำนาจถอดถอน ให้กำหนดในกฎมหาเถรสมาคม ซึ่งมหาเถรสมาคมก็มีบทกำหนดอยู่แล้ว เป็นอันจบหมวด ๓ นะครับ