ลักษณะ ๑
บทนิยาม
——————
อันบทนิยามคือ “บทให้ความหมาย” หรือ “บทให้คำจำกัดความ” เป็นบทที่ต้องศึกษาให้เข้าใจ เพราะเป็นส่วนหลักการ และในข้อ ๔ มีบทนิยาม ๑๘ บท คือ.-
(๑) “พระภิกษุ” หมายถึง
(ก) พระภิกษุซึ่งมิใช่ผู้ปกครองสงฆ์
(ข) พระภิกษุผู้ปกครองสงฆ์
(๒) “ความผิด” หมายถึง การล่วงละเมิดพระธรรมวินัย
(๓) “นิคหกรรม” หมายถึง การลงโทษตามพระธรรมวินัย
(๔) “ผู้มีส่วนได้เสีย” หมายถึง พระภิกษุปกตัตตะซึ่งสังกัดวัดเดียวกันและมีสังวาสเสมอกันกับพระภิกษุผู้เป็นจำเลย
(๕) “ผู้เสียหาย” ได้แก่ ผู้เสียหายเฉพาะตัวและผู้จัดการแทนผู้เสียหาย ซึ่งจัดการแทนผู้เสียหายแยกได้ ๓ คือ.-
(ก) ผู้จัดการแทนผู้เยาว์หรือผู้ไร้ความสามารถ.- คือ ผู้แทนโดยชอบธรรม, ผู้อนุบาลตามกฎหมาย, ผู้ตามที่พระภิกษุผู้มีอำนาจลงนิคหกรรมเห็นสมควรให้เป็นผู้จัดการแทนผู้เสียหาย
(ข) ผู้จัดการแทนผู้บรรลุนิติภาวะ.- คือ ผู้บุพการี, ผู้สืบสันดาน, ผู้สัมพันธ์โดยกฎหมาย, ผู้สัมพันธ์โดยสายโลหิต,
(ค) ผู้จัดการหรือผู้แทนนิติบุคคล
(๖) “โจทก์” หมายถึง
(ก) ผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้เสียหาย ซึ่งฟ้องพระภิกษุต่อพระภิกษุผู้พิจารณาในข้อหาว่าได้กระทำความผิด
(ข) พระภิกษุผู้ปฏิบัติหน้าที่โจทก์แทนสงฆ์ในชั้นพิจารณาวินิจฉัยการลงนิคหกรรม
(๗) “จำเลย” หมายถึง
(ก) พระภิกษุซึ่งถูกโจทก์ฟ้องต่อพระภิกษุผู้พิจารณาในข้อหาว่าได้กระทำความผิด
(ข) พระภิกษุผู้ถูกกล่าวหาซึ่งตกเป็นจำเลยในชั้นพิจารณาวินิจฉัยการลงนิคหกรรม
(๘) “ผู้กล่าวหา” หมายถึง ผู้บอกกล่าวการกระทำความผิดของพระภิกษุต่อพระภิกษุผู้พิจารณาเพราะตนมิใช่ผู้มีส่วนได้เสียหรือมิใช่ผู้เสียหาย
(ก) พระภิกษุปกตัตตะหรือสามเณรผู้ถึงพร้อมด้วยศีลและอาจาระและมีสังกัด
(ข) คฤหัสถ์ผู้นับถือพระพุทธศาสนาซึ่งมีอายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์
(๙) “ผู้แจ้งความผิด” หมายถึง พระภิกษุผู้ปกครองสงฆ์ซึ่งไม่มีอำนาจลงนิคหกรรม แจ้งความผิดหรือพฤติการณ์อันน่ารังเกียจสงสัย ต่อพระภิกษุผู้พิจารณา
(๑๐) “ผู้ถูกกล่าวหา” หมายถึง
(ก) พระภิกษุซึ่งถูกผู้กล่าวหาบอกกล่าวการกระทำความผิดต่อพระภิกษุผู้พิจารณา
(ข) พระภิกษุซึ่งถูกผู้แจ้งความผิดแจ้งการกระทำความผิดหรือพฤติการณ์อันน่ารังเกียจสงสัยต่อพระภิกษุผู้พิจารณา
(๑๑) “ผู้มีอำนาจลงนิคหกรรม” หมายถึง พระภิกษุผู้พิจารณาและคณะผู้พิจารณา
(๑๒) “เจ้าสังกัด” หมายถึง พระภิกษุผู้ปกครองสงฆ์ชั้นเจ้าอาวาส เจ้าคณะ เจ้าสังกัด
(๑๓) “เจ้าของเขต” หมายถึง พระภิกษุผู้ปกครองสงฆ์ชั้นคณะ เจ้าของเขต
(๑๔) “ผู้พิจารณา” หมายถึง เจ้าสังกัดหรือเจ้าของเขต
(๑๕) “คณะผู้พิจารณา” หมายถึง มหาเถรสมาคมและคณะผู้พิจารณาซึ่งผู้มีตำแหน่งสูงเป็นหัวหน้า
(๑๖) “คณะผู้พิจารณาชั้นต้น” หมายถึง คณะผู้พิจารณาตามความในข้อความ ๒๔ ซึ่งมี ๗ อันดับตามข้อ ๗
(๑๗) “คณะผู้พิจารณาชั้นอุทธรณ์” หมายถึง คณะผู้พิจารณาตามความในข้อ ๒๕ ซึ่งมี ๔ อันดับ (๑๘) “คณะผู้พิจารณาชั้นฎีกา” หมายถึง คณะผู้พิจารณาตามความในข้อ ๒๖ ซึ่งเป็นชั้นและอันดับสูงสุดตามความในข้อ ๒๗
Hits: 1