คำสั่งมหาเถรสมาคม
ว่าด้วยการปลูกต้นไม้ในที่วัดหรือในที่ธรณีสงฆ์
พ.ศ. ๒๕๓๘[1]
——————-
อาศัยอำนาจตามความใสนมาตรา ๑๕ ตรี แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเต็มโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒ ) พ.ศ. ๒๕๓๕ มหาเถรสมาคมจึกออกคำสั่งต่อไปนี้
ข้อ ๑ คำสั่งมหาเถรสมาคมนี้ เรียกว่า คำสั่งมหาเถรสมาคม วท่าด้วยการปลูกต้นไม้ในที่วัด หรือที่ธรณีสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๓๘
ข้อ ๒ คำสั่งมหาเถรสมาคมนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในแถลงการณ์คณะสงฆ์ เป็นต้นไป
ข้อ ๓ ตั้งแต่วันใช้คำสั่งมหาเถรสมาคมนี้ให้ยกเลิกคำสั่งมหาเถรสมาคม ว่าด้วยการปลูกต้นไม้ในที่วัดหรือที่ธรณีสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๒๐
ข้อ ๔ ให้วัดทั้งหลายซึ่งมีที่ว่างสมควรจะปลูกต้นไม้ได้ จัดการควบคุมให้ไวยาวัจกร กัปปิยการก หรือคฤหัสถ์อื่นใด ปลูกต้นไม้ในทีท่วัดหรือที่ธรณีสงฆ์แล้วแต่กรณี
ข้อ ๕ ประเภทต้นไม้ที่จะนำมาปลูก กำหนดให้ไว้พอเป็นตัวอย่าง ดังนี้
(๑) ไม้เนื้อแข็งเช่น ต้นสัก ต้นเต็ง ต้นรัง ต้นยาง
(๒) ไม้ร่มเงา เช่น ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นสะตือ
(๓) ไม้ดอกยืนต้น เช่น ต้นชัยพฤกษ์ ต้นราชพฤกษ์
(๔) ไม้ผลยืนต้น เช่น ต้นสมอ ต้นมะขามป้อม
(๕) ไม้พุ่ม
(๖) ไม้กอ เช่นกอไผ่
(๗) พืชสมุนไพร
ข้อ ๖ ลักษณะการปลูกต้นไม้ แยกลักษณะเป็น
(๑) ปลูกเป็นแนวเขตวัด เช่นไม้เนื้อแข็ง
(๒) ปลูกเป็นกลุ่มหรือเป็นหมู่
(๓) ปลูกเรียงต้น
(๔) ปลูกเฉพาะต้น
ข้อ ๗ กล้าไม้ที่จะนำมาปลูก อาจได้มาจาก
(๑) การขอจากทางราชการ
(๒) การขอจากเอกชนหรือสถานที่อื่นๆ
(๓) การเพาะหรือการตัดตอนเป็นต้นของวัด
ข้อ ๘ ในที่ธรณีสงฆ์ หากทางวัดเห็สนควรจะปลูกต้นไม้ ย่อมจะกระทะได้โดยอนุโลมตามความในข้อ ๕ ข้อ ๖ ข้อ ๗ ดังกล่าวข้างต้น
ข้อ ๙ วัดทั้งหลายจะปลูฏต้นไม้ประเภทใดลักษณะใด สุดแต่ทางวัดจะพิจารณาเอง หรือตามคำแนะนำของเจ้าคณะผู้บังคับบัญชา
หากทางววัดไม่อาจจะปลูกต้นไม้ลงในพื้นที่ซึ่งที่กำหนดไว้ว่าจะปลูกเพราะเหตุใดเหตุหนึ่ง ให้จัดการปลูกในปีต่อไป จนกว่าจะครบตามที่วัดกำหนดไว้
เมื่อต้นไม้ที่ปลูกไว้ตายลง ให้มีการปลูกแทน จะเป็นต้นไม้ประเภทเดิมหรือต่างประเภทก็ได้
ข้อ ๑๐ เมื่อปลูกต้นไม้ประเภทใดไว้เป็นไม้ชนิใด จำนวนเท่าใดและเมื่อวัน เดือน ปีใด ให้วัดจัดทำบันทึกเก็บไว้ที่วัด เพื่อเป็นประวัติต่อไป
ข้อ ๑๑ เป็นหน้าที่ของเจ้าคณะผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น จะคอยตักเตือนชี้แจงแนะนำตลอดถึงการช่วยเหลือตามสมควร เพื่อให้วัดทั้งหลายภายในสังกัดได้ปฏิบุติตามคำสั่งตามผกำลังสามารถ
ข้อ ๑๒ ย่อมเป็นการชอบในการที่วัดทั้งหลาย จะให้ความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลโดยชี้แจงแนะนำสนับสนุนให้ประชาชนเห็นคุณค่า และมีความรักต้นไม้ กับทั้งรักในการที่จะปลูกต้นไม้ในที่ดินของตนที่พอจะปลูกได้ และเป็นการสมควรอย่างยิ่ง ที่จะได้ชี้แจงแนะนำสนับสนุนประชาชน ในเขตหมู่บ้านหรือในตำบลนั้นๆ เพื่อให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการปลูกต้นไม้ ไม่ว่าจะเป็นเขตบ้านเขตวัดพื้นที่สาธารณะหรือพื้นที่ป่า โดยให้ถือเอาวันวิษาขบูชาเป็นวันเริ่มปลูกต้นไม้
ข้อ ๑๓ วัดใดมีกำลังสามารถ เห็นประชาชนมีความต้องการกล้าไม้บางอย่าง ควรช่วยเหลือเกื้อกูลให้ประชาชนได้กล้าไม้นั้นตามความต้องการโดยจะจัดให้มีกล้าไม้ขึ้นในวัด เพื่อแจกจ่ายหรือจะช่วยเหลือโดยประการอื่นสุดแต่ความเหมาะสม
สั่ง ณ วันที่ ๒ มกราคม ๒๕๓๘
(สมเด็จพระญาณสังวร)
สมเด็จพระสงฆราช สกลมหาสังฆปิณายก
ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม
[1] ประกาศในแถลงการณ์คณะสงฆ์ เล่ม ๘๓ ตอนที่ ๑ : ๒๕ มกราคม ๒๕๓๘