ระเบียบกรมการศาสนา
ว่าด้วยการกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาปฏิบัติราชการสำหรับ
การขอพระราชทานเพลิงศพพระสมณศักดิ์
พ.ศ. ๒๕๓๗[1]
————————-
อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๙ แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชนของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. ๒๕๓๒ จึงให้ออกระเบียบกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาปฏิบัติราชการสำหรับการขอพระราชทานเพลิงศพพระสมณศักดิ์ไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมการศาสนาว่าด้วยการกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาปฎิบัติราชการสำหรับการขอพระราชทานเพลิงศพพระสมณศักดิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๓ การขอพระราชทานเพลิงศพ มี ๒ ประเภท คือ
๓.๑ การขอพระราชทานเพลิงพระศพตามปกติ
๓.๒ การขอพระราชทานเพลิงพระศพเป็นกรณีพิเศษ
ข้อ ๔ พระสมณศักดิ์อยู่ในเกณฑ์ที่จะขอพระราชทานเพลิงศพได้
๔.๑ พระครูประทวน
๔.๒ พระครูปลัดของพระราชคณะตั้งแต่ชั้นราชขึ้นไป
๔.๓ พระเปรียญธรรม ๙ ประโยค
๔.๔ พระครูสัญญาบัตร
๔.๕ พระราชาคณะทุกชั้น
ข้อ ๕ พระภิกษุที่ไม่ในเกณฑ์ตามข้อ ๔ แต่ได้ประกอบคุณงามความดี หรือมีเหตุอันสมควรอื่นใดที่เจ้าคณะผู้ปกครองฝ่ายสงฆ์ พิจารณาเห็นสมควร ถ้ามีความประสงค์จะขอพระราชทานเพลิงศพ ต้องขอเป็นกรณีพิเศษ
ข้อ ๖ การเสนอเรื่องขอพระราชทานเพลิงศพ ในส่วนกลาง ให้เจ้าอาวาสหรือผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส เสนอเรื่องถึงกรมการศาสนาโดยตรง
ข้อ ๗ การเสนอเรื่องขอพระราชทานเพลิงศพ ในส่วนภูมิภาค
๗.๑ เจ้าคณะจังหวัด (โดยเจ้าภาพเสนอเรื่องผ่านตามลำดับมีถึงเจ้าคณะจังหวัด) หรือ
๗.๒ ผู้ว่าราชการจังหวัด (โดยเจ้าภาพเสนอเรื่องผ่านอำเภอถึงผู้ว่าราชการจังหวัด)
ข้อ ๘ หลักฐานประกอบการขอพระราชทานเพลิงศพ
๘.๑ สำเนาตราตั้งสมณศักดิ์
๘.๒ สำเนามรณบัตร
๘.๓ อื่น ๆ (ถ้ามี)
ข้อ ๙ การขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ นอกจากหลักฐานตามข้อ ๘ แล้ว ให้แนบประวัติและผลงานของผู้มรณภาพที่จะขอรับพระราชทานเพลิงศพโดยเจ้าอาวาสลงนามรับรอง และเจ้าคณะตำบล อำเภอ จังหวัดตามลำดับ ลงในนามให้ความเห็นชอบประกอบการขอพระราชทานด้วย
ข้อ ๑๐ แจ้งรายละเอียดต่าง ๆ เช่น นามเดิม ฉายา อายุ พรรษา ตำแหน่ง วัน เวลา และสถานที่ที่จะพระราชทานเพลิงศพให้ชัดเจน
วันเฉลิมพระชนมพรรษา และวันฉัตรมงคลไม่พระราชทานเพลิงศพ
ข้อ ๑๑ เสนอเรื่องขอพระราชทานเพลิงศพถึงกรมการศาสนาก่อนวันพระราชทานเพลิงศพอย่างน้อย ๓๐ วัน เพื่อกรมการศาสนาจะได้แจ้งการขอพระราชทานเพลิงศพไปยังสำนักพระราชวังต่อไป โดยใช้เวลาดำเนินการประมาณ ๗ วันทำการ
ข้อ ๑๒ ประเภทของเพลิงพระราชทาน
๑๒.๑ เพลิงหลวง ได้แก่ไฟพระราชทานที่เจ้าหน้าที่กองพระราชพิธี สำนักพระราชวังเป็นผู้อัญเชิญไปเอง
๑๒.๒ หีบเพลิง ได้แก่หีบที่บรรจุไม้ขีดไฟ ๑ กลัก ธูปไม้ระกำ ๒ ดอก เทียน ๒ เล่ม และดอกไม้จันทน์ ๒ ช่อ
ข้อ ๑๓ การพระราชทานเพลิงศพในส่วนกลาง (รวมจังหวัดนนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการบางอำเภอ) เจ้าหน้าที่พระราชพิธี สำนักพระราชวังเป็นผู้อัญเชิญไฟพระราชทานไปเอง
ข้อ ๑๔ การพระราชทานเพลิงศพในส่วนภูมิภาค เมื่อทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานและกรมการศาสนาได้รับหีบเพลิงจากสำนักพระราชวังแล้ว จะจัดส่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับไปดำเนินการ ไม่ว่าผู้ขอพระราชทานจะเป็นใครก็ตาม โดยจะจัดส่งหีบเพลิงถึงจังหวัดก่อนกำหนดงานอย่างน้อย ๗ วัน
ข้อ ๑๕ ในกรณีที่ผู้ขอพระราชทานเพลิงศพในส่วนภูมิภาค ต้องการให้เจ้าหน้าที่พระราชพิธีสำนักพระราชวัง อัญเชิญไฟพระราชทานไป ต้องระบุในหนังสือขอพระราชทานด้วยว่า “ขอพระราชทานไฟหลวง” และเจ้าภาพต้องติดต่อประสานกับเจ้าหน้าที่กองพระราชพิธีสำนักพระราชวังเป็นการภายในอีกทางหนึ่งด้วย
ข้อ ๑๖ เจ้าภาพที่มีความประสงค์จะขอหมายรับสั่งในการพระราชทานเพลิงศพเพื่อนำไปประกอบการพิมพ์หนังสือที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ ติดต่อแจ้งเจ้าหน้าที่กองพระราชพิธีสำนักพระราชวังเอง
ข้อ ๑๗ เมื่องานพระราชทานเพลิงศพเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องจัดส่งพัดยศคืนกรมการศาสนาในเวลาอันสมควร
ข้อ ๑๘ ให้ผู้อำนวยการกองศาสนูปถัมภ์รักษาการให้เป็นไปตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๗
จำเริญ เสกธีระ
(ลงชื่อ) จำเริญ เสกธีระ)
อธิบดีกรมการศาสนา
[1] จากแถลงการณ์คณะสงฆ์ เล่ม ๘๓ : ๒๕ กันยายน ๒๕๓๘
Views: 69