“ปมาณิกาฉันท์” เป็นชื่อที่เรียกตามแบบไทย
แต่ในคัมภีร์วุตโตทัยเดิมท่านเรียกว่า “ปมาณิกาคาถา” เป็นอนุฏฐุภาฉันท์ “ปมาณิกา” แปลว่า “คาถาที่มีคำหนักเบาใกล้เคียงกันกับสมานิกา” เป็นฉันท์ที่มี ๔ บาท ๆ ละ ๘ คำ เพราะมีบาทละ ๘ คำจึงเรียกว่า “ฉันท์ ๘” มีสูตรว่า “ปมาณิกา
ชรา ลคา” แปลว่า “คาถาที่มี ช
คณะ ร คณะ และ ลหุ ครุ ชื่อว่า
“ปมาณิกา”
ในการบัญญัติฉันท์ไทยนั้น ท่านนำเอาสูตรดังกล่าวมาเป็นสูตร โดยนำมาครบทั้ง ๔ บาท แล้วปรับปรุงให้เป็น ๔ บาท ๆ ละ ๒ วรรค เพราะมีบาทละ ๘ คำ จึงเรียกว่า “ฉันท์ ๘” แล้วเพิ่มสัมผัสเข้า คือ คำสุดท้ายของวรรคแรกส่งสัมผัสไปยังคำที่ ๒ ของวรรคที่ ๒, คำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ ส่งสัมผัสไปยังคำสุดท้ายของวรรคที่ ๓, คำสุดท้ายของวรรคที่ ๔ ส่งสัมผัสไปยังคำสุดท้ายของวรรคที่ ๖, คำสุดท้ายของวรรคที่ ๕ ส่งสัมผัสไปยังคำที่ ๒ ของวรรคที่ ๖, คำสุดท้ายของวรรคที่ ๖ ส่งสัมผัสไปยังคำสุดท้ายของวรรคที่ ๗ และคำสุดท้ายของวรรคที่ ๘ ส่งสัมผัสไปยังคำที่พร้อมจะรับในบทที่จะแต่งต่อไป มีแผนผังและตัวอย่างดังนี้

