“วุตตฉันท์” หรือ “อีทิสฉันท์” หรือ “อีทิสังฉันท์” เป็นชื่อที่เรียกตามแบบไทย แต่ในคัมภีร์วุตโตทัย ท่านเรียกว่า “วุตตคาถา” เป็นกติฉันท์ ฯ “กติ” แปลว่า “ฉันท์ที่แต่งด้วยคณะและยติตามที่กล่าวมาแล้ว” “วุตตะ” แปลว่า “คาถาที่กล่าวด้วย ร คณะ เป็นต้น” เป็นคาถา ๔ บาท ๆ ละ ๒๐ คำ มีสูตรว่า “วุตฺตมีทิสํ ตุ นามโต รชา รชา รชา ครูลหู จ” แปลว่า “คาถาที่มี ร คณะ ช คณะ ร คณะ ช คณะ ร คณะ ช คณะ ครุลอยและลหุลอย ชื่อว่า“วุตตคาถา”
ในการบัญญัติฉันท์ไทยนั้น ท่านนำสูตรดังกล่าวมาเป็นสูตร โดยกำหนดนำมาเพียง ๑ บาท แล้วปรับปรุงให้เป็น ๓ วรรค รวม ๒๐ คำ เพราะรวมทั้งบทมี ๒๐ คำ จึงเรียกว่า “ฉันท์ ๒๐” เปลี่ยนลหุลอยเป็นครุลอยเสีย แล้วเพิ่มสัมผัสเข้า คือ คำสุดท้ายของวรรคที่ ๑ ส่งสัมผัสไปยังคำสุดท้ายของวรรคที่ ๒, และคำสุดท้ายของวรรคที่ ๓ ส่งสัมผัสไปยังคำที่พร้อมจะรับในบทที่จะแต่งต่อไป มีแผนผังและตัวอย่าง ดังนี้

