กฏมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๘ ( พ.ศ. ๒๕๐๖ )

กฏมหาเถรสมาคม

ฉบับที่ ๘ ( พ.ศ. ๒๕๐๖ ) [1]

ว่าด้วยการแต่งตั่งถอดถอนไวยาวจักร

———————-

         อาศัยอำนาจตามความตามในมาตรา ๑๘ และมาตรา๒๓ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๑๕๐๕ มหาเถรสมาคมไว้  ดังต่อไปนี้

         ข้อ ๑  กฎมหาเถรสมาคมนี้  เรียกว่า  กฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๘ (พ.ศ.๒๕๐๖)  ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนไวยาวัจกร”

         ข้อ ๒ กฎมหาเถรสมาคมนี้  ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในแถลงการณ์คณะสงฆ์  เป็นต้นไป

         ข้อ ๓ ในกฎมหาเถรสมาคมนี้  “ไวยาวัจกร”  หมายถึง คฤหัสถ์ผู้ได้รับแต่งตั้งให้มีหน้าที่เบิกจ่ายนิตยภัต  และมีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาทรัพย์สินของวัด  ตามที่เจ้าอาวาสมอบหมายเป็นหนังสือ

หมวด ๑
การแต่งตั้งไวยาวัจกร

         ข้อ ๕ คฤหัสถ์ผู้จะดำรงตำแหน่งไวยาวัจกร  ต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้

              (๑) เป็นชาย มีสัญชาติไทย นับถือพระพุทธศาสนา

              (๒) มีอายุไม่ต่ำกว่า ๒๕ ปีบริบูรณ์

              (๓) เป็นผู้มีหลักฐานมั่นคง

              (๔) เป็นผู้มีความรู้ความสามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่ไวยาวัจกรได้

              (๕) เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองตามระบอบรัฐธรรมนูญ

             (๖) ไม่เป็นผู้มีร่างกายทุพพลภาพ ไร้ความสามารถ หรือมีจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ หรือมีโรคเป็นที่รังเกียจแก่สังคม

              (๗) ไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดี เช่นมีความประพฤติเสเพล เป็นนักเลงการพนัน เสพสุราเป็นอาจิณ หรือติดยาเสพติดให้โทษ

              (๘) ไม่เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว

              (๙) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออกจากราชการ หรือองค์การค้าของรัฐบาลหรือบริษัทห้างร้านเอกชน ในความผิดหรือมีมลทินมัวหมองในความผิดเกี่ยวกับการเงิน

              (๑๐) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษจำคุก เว้นแต่ความผิดที่เป็นลหุโทษหรือความผิดอันได้กระทำโดยประมาท

         ข้อ ๕ ในการแต่งตั้งไวยาวัจกรของวัดใด  ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าอาวาสวัดนั้นปรึกษาสงฆ์ในวัดพิจารณาคัดเลือกคฤหัสถ์ผู้มีคุณสมบัติตามความในข้อ ๔ เมื่อมีมติเห็นชอบในคฤหัสถ์ผู้ใด ก็ให้เจ้าอาวาสสั่งแต่งตั้งคฤหัสถ์ผู้นั้นเป็นไวยาวัจกร โดยอนุมัติของเจ้าคณะอำเภอ

         ในการแต่งตั้งไวยาวัจกรตามความในวรรคต้น เพื่อความเหมาะสม จะแต่งตั้งไวยาวัจกรคนเดียวหรือหลายคนก็ได้

         ในกรณีที่มีไวยาวัจกรหลายคน ให้เจ้าอาวาสมอบหมายการงานแก่ไวยาวัจกรแต่ละคนเป็นหนังสือ

หมวด ๒
การพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ไวยาวัจกร

        ข้อ ๖ ไวยาวัจกร ย่อมพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ เมื่อ

           (๑) ตาย

              (๒) ลาออก

              (๓) เจ้าอาวาสผู้แต่งตั้งพ้นจากตำแหน่งหน้าที่

              (๔) ขาดคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งตามความในข้อ ๔

              (๕) ให้ออกจากตำแหน่งหน้าที่

              (๖) ถูกถอดถอนออกตำแหน่งหน้าที่

         ข้อ ๗ ไวยาวัจกรผู้ใดประสงค์จะลาออกจากตำแหน่งหน้าที่ย่อมทำได้  เมื่อเจ้าอาวาสสั่งอนุญาตแล้ว  จังเป็นอันพ้นจากตำแหน่งหน้าที่  และให้เจ้าอาวาสรายงานเจ้าคณะอำเภอทราบ

         ข้อ ๘ ไวยาวัจกรผู้พ้นจากตำแหน่งหน้าที่ตามความในข้อ ๖ (๓) ให้รักษาการในตำแหน่งหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งใหม่

         ข้อ ๙ ไวยาวัจกรผู้ขาดคุณสมบัติตามความในข้อ ๖ (๔) ให้เจ้าอาวาสสั่งให้พ้นจากตำแหน่งหน้าที่  แล้วรายงานเจ้าคณะอำเภอทราบ

         ข้อ ๑๐ ในกรณีที่ไวยาวัจกรหย่อนความสามารถด้วยเหตุใด ๆ ในการปฏิบัติหน้าที่  เมื่อเจ้าอาวาสเห็นสมควรให้ออกจากตำแหน่งหน้าที่ ก็สั่งให้ออกได้ โดยอนุมัติของเจ้าคณะอำเภอ

         ข้อ ๑๑  การถอดถอนไวยาวัจกรออกจากตำแหน่งหน้าที่ จะทำได้เมื่อไวยาวัจกรประพฤติมิชอบอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้

              (๑) ทุจริตต่อหน้าที่

              (๒)ไม่ปฏิบัติหน้าที่จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง

              (๓) ขัดคำสั่งของเจ้าอาวาสซึ่งสั่งโดยชอบด้วยกฎหมาย และระเบียบแบบแผนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่วัดอย่างร้ายแรง

              (๔) ประมาทเลินเล่อในหน้าที่เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่วัดอย่างร้ายแรง

              (๕) ความประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง

         ในกรณีเช่นนี้ ให้เจ้าอาวาสสั่งถอดถอนไวยาวัจกรผู้นั้นออกจากตำแหน่งหน้าที่โดยอนุมัติของเจ้าคณะอำเภอ

         ข้อ ๑๒ ในกรณีที่ไวยาวัจกรพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ตามความในข้อ ๖ (๒) (๓) (๔) (๕) หรือ (๖) ไวยาวัจกรผู้นั้นจะพ้นจากความรับผิดชอบในหน้าที่ ต่อเมื่อได้มอบหมายการงานพร้อมด้วยทรัพย์สินและหลักฐานต่าง ๆ ซี่งอยู่ในความรับผิดชอบของตน แก่ผู้เข้ารับตำแหน่งหน้าที่แทนตามตนเรียบร้อยแล้ว

         ข้อ ๑๓ ในกรณีที่ตำแหน่งไวยาวัจกรว่างลง ถ้าเจ้าอาวาสเห็นสมควร จะสั่งแต่งตั้งผู้รักษาการในตำแหน่งไวยาวัจกรเป็นการชั่วคราวก็ได้

         ผู้รักษาการในตำแหน่งไวยาวัจกร ให้มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับไวยาวัจกร

หมวด ๓
เบ็ดเตล็ด

         ข้อที่ ๑๔ เมื่อมีการแต่งตั้งไวยาวัจกร หรือผู้รักษาการในตำแหน่งไวยาวัจกรหรือเมื่อไวยาวัจกรพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ด้วยเหตุใด ๆ

              (๑) ในจังหวัดพระนครและธนบุรี ให้เจ้าอาวาสแจ้งไปยังกรมการศาสนา

              (๒) ในจังหวัดอื่น ให้เจ้าอาวาสแจ้งแก่นายอำเภอ เพื่อรายงานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดและกรมการศาสนา

         ข้อ ๑๕ คำสั่งของเจ้าอาวาสในการแต่งตั้งไวยาวัจกร  หรือผู้รักษาการในตำแหน่งไวยาวัจกรก็ดี  ในการให้ไวยาวัจกรหรือผู้รักษาการในตำแหน่งไวยาวัจกรพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ก็ดี   ให้กระทำเป็นหนังสือ

         ตราไว้  ณ  วันที่ ๓๑  ธันวาคน  พ.ศ.๒๕๐๖

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ

สมเด็จพระสังฆราช  ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม

หมายเหตุ :

         เหตุผลในการประกาศใช้กฎมหาเถรสมาคมฉบับนี้  คือ เนื่องจากตำแหน่งไวยาวัจกร  เป็นตำแหน่งที่มีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาและจัดการศาสนสมบัติของวัด  อันเป็นกิจการสำคัญเกี่ยวกับผลประโยชน์ส่วนได้เสียของวัดและพระศาสนา  นอกจากนี้  ยังมีฐานะเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายอีกส่วนหนึ่งด้วย

         ฉะนั้น  ในการแต่งตั้งไวยาวัจกร  จึงสมควรกำหนดหลักเกณฑ์ให้มีการคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติและความประพฤติอันเหมาะตับตำแหน่งหน้าที่  และสมควรกำหนดลักษณะความผิดและความบกพร่องไว้เป็นหลักในการควบคุมและถอดถอนไวยาวัจกร  ทั้งนี้  เพื่อให้การดูแลรักษาและจัดผลประโยชน์ของวัดได้ดำเนินไปโดยเรียบร้อย

         ส่วนวิธีการแต่งตั้งถอดถอนไวยาวัจกรนั้น   ควรมอบให้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของเจ้าอาวาสเป็นผู้แต่งตั้งและถอดถอน  โดยอนุมัติของเจ้าคณะอำเภอ


            [1] ประกาศแถลงการณ์ณ์คณะสงฆ์ เล่ม ๕๑ ภาค ๑๒ ตอนที่  ๒ วันที่  ๓๑  ธันวาคม  ๒๕๐๖