สังฆาณัติระเบียบบริหารการคณะสงฆ์ส่วนภูมิภาค
พุทธศักราช ๒๔๘๕ [1]
สมเด็จพระสังฆราช
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช
สกลมหาสังฆปริณายก
บัญญัติไว้ ณ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๘๕
——————————–
โดยที่สังฆสภาลงมติว่า สมควรกำหนดระเบียบบริหารการคณะสงฆ์ส่วนภูมิภาค ตามความในมาตรา ๓๔ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พุทธศักราช ๒๔๘๔
จึงมีบัญชาให้บัญญัติสังฆาณัติขึ้นไว้ โดยคำแนะนำของสังฆสภา ดังต่อไปนี้
ข้อความเบื้องต้น
มาตรา ๑ สังฆาณัตินี้ให้เรียกว่า “สังฆาณัติระเบียบบริหารการคณะสงฆ์ส่วนภูมิภาค พุทธศักราช ๒๔๘๕”
มาตรา ๒ ให้ใช้สังฆาณัตินี้ตั้งแต่วันประกาศในแถลงการณ์คณะสงฆ์เป็นต้นไป
มาตรา ๓ ตั้งแต่วันใช้สังฆาณัตินี้ ให้ยกเลิกบรรดากฎ อาณัติคณะสงฆ์ ข้อบังคับและระเบียบอื่น ในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้วในสังฆาณัตินี้ หรือซึ่งแย้งกับบทบัญญัติแห่งสังฆาณัตินี้
มาตรา ๔ ให้สังฆมนตรีว่าการองค์การปกครองมีอำนาจออกกฎองค์การ เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามสังฆาณัตินี้
กฎองค์การนั้น เมื่อประกาศในแถลงการณ์คณะสงฆ์แล้วให้ใช้บังคับได้
มาตรา ๕ ให้สังฆนายกรักษาการตามสังฆาณัตินี้
มาตรา ๖ ให้จัดระเบียบบริหารการคณะสงฆ์ส่วนภูมิภาค ดังนี้
(๑) จังหวัด
(๒) อำเภอ
(๓) ตำบล
มาตรา ๗ เขตจังหวัดและเขตอำเภอ ให้อนุโลมตามเขตจังหวัดและเขตอำเภอแห่งราชอาณาจักร เเต่เมื่อจะกำหนดให้เป็นอย่างอื่น ย่อมทำได้โดยบทกติกาสงฆ์
ส่วนเขตตำบล ให้กำหนดโดยกฎองค์การ
ลักษณะ ๑
จังหวัด
มาตรา ๘ จังหวัดหนึ่งให้มีกรรมการคณะสงฆ์คณะหนึ่ง มีเจ้าคณะจังหวัดเป็นประธาน ประกอบด้วยกรรมการผู้บริหารการคณะสงฆ์ประจำจังหวัด ในหน้าที่ขององค์การนั้นๆ
ให้มีเลขานุการคณะกรรมการสงฆ์จังหวัดหนึ่งรูป ถ้าจำเป็นจะให้มีเลขานุการผู้ช่วยอีกรูปหนึ่ง หรือหลายรูปก็ได้
มาตรา ๙ คณะกรรมการสงฆ์จังหวัดมีหน้าที่บริหารการคณะสงฆ์ในจังหวัดนั้น ดังนี้
(๑) บริหารการคณะสงฆ์ตามสังฆาณัติ กติกาสงฆ์ กฎองค์การ กฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบ
(๒) บริหารการคณะสงฆ์ตามคำสั่งขององค์การต่างๆ
(๓) บริหารการคณะสงฆ์ตามคำสั่งหรือคำแนะนำชี้แจงของเจ้าคณะตรวจการภาคในเมื่อไม่ขัดกับพระธรรมวินัย สังฆาณัติ กติกาสงฆ์ กฎองค์การ กฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบ
(๔) ควบคุมดูแลการคณะสงฆ์อันเป็นอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการสงฆ์อำเภอ เจ้าคณะตำบล เเละเจ้าอาวาสในจังหวัดนั้นพึ่งปฏิบัติ
ในการนี้มีอำนาจตรวจตราชี้แจงแสดงความเห็น สั่งและแนะนำคณะกรรมการสงฆ์ อำเภอ เจ้าคณะอำเภอ เจ้าอาวาส และภิกษุสามเณรในจังหวัดนั้นให้ปฏิบัติ เมื่อการนั้นไม่ขัดกับพระธรรมวินัย สังฆาณัติ กติกาสงฆ์ กฎองค์การ กฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบ คำสั่ง และคำวินิจฉัยขององค์การต่างๆ
มาตรา ๑๐ ในกรณีที่เจ้าคณะจังหวัดไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ และมิได้มอบหมายให้กรรมการสงฆ์จังหวัดรูปใดรูปหนึ่งทำการแทนให้กรรมการสงฆ์จังหวัดเลือกกันเองขึ้นปฏิบัติการแทน
ลักษณะ ๒
อำเภอ
มาตรา ๑๑ อำเภอหนึ่งให้มีกรรมการสงฆ์คณะหนึ่ง มีเจ้าคณะอำเภอเป็นประธาน ประกอบด้วยกรรมการผู้บริหารการคณะสงฆ์ประจำอำเภอ ในหน้าที่ขององค์การนั้นๆ
ให้มีเลขานุการคณะกรรมการสงฆ์อำเภอหนึ่งรูป ถ้าจำเป็นจะให้มีเลขานุการผู้ช่วยอีกรูปหนึ่ง หรือหลายรูปก็ได้
มาตรา ๑๒ คณะกรรมการสงฆ์อำเภอมีหน้าที่บริหารการคณะสงฆ์ในอำเภอนั้น ดังนี้
(๑) บริหารการคณะสงฆ์ตามสังฆาณัติ กติกาสงฆ์ กฎองค์การ กฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบ
(๒) บริหารการคณะสงฆ์ตามคำสั่งหรือคำแนะนำชี้แจงของคณะกรรมการสงฆ์จังหวัดหรือเจ้าคณะตรวจการภาคในเมื่อไม่ขัดกับพระธรรมวินัย สังฆาณัติ กติกาสงฆ์ กฎองค์การ กฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบ
(๓) ควบคุมดูแลการคณะสงฆ์อันเป็นอำนาจและหน้าที่ของเจ้าคณะตำบลและเจ้าอาวาสในอำเภอนั้นพึ่งปฏิบัติ
ในการนี้มีอำนาจตรวจตราชี้แจงแสดงความเห็น สั่งและแนะนำเจ้าคณะตำบล เจ้าอาวาส และภิกษุสามเณรในอำเภอนั้นให้ปฏิบัติ เมื่อการนั้นไม่ขัดกับพระธรรมวินัย สังฆาณัติ กติกาสงฆ์ กฎองค์การ กฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบ คำสั่ง และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการสงฆ์จังหวัด
มาตรา ๑๓ ในกรณีที่เจ้าคณะอำเภอไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ และมิได้มอบหมายให้กรรมการสงฆ์อำเภอรูปใดรูปหนึ่งทำการแทนให้เจ้าคณะจังหวัดสั่งให้กรรมการสงฆ์อำเภอรูปใดรูปหนึ่งปฏิบัติการแทน
ลักษณะ ๓
ตำบล
มาตรา ๑๔ ตำบลหนึ่งให้มีเจ้าคณะตำบลรูปหนึ่ง มีหน้าที่บริหารงานคณะสงฆ์ในตำบลนั้น ดังนี้
(๑) บริหารการคณะสงฆ์ตามสังฆาณัติ กติกาสงฆ์ กฎองค์การ กฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบ
(๒) บริหารงานคณะสงฆ์ตามคำสั่งและคำแนะนำชี้แจงของคณะกรรมการสงฆ์อำเภอคณะกรรมการสงฆ์จังหวัดหรือเจ้าคณะตรวจการภาค ในเมื่อไม่ขัดกับพระธรรมวินัย สังฆาณัติ กติกาสงฆ์ กฎองค์การ กฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบ
(๓) ควบคุมดูแลการคณะสงฆ์ อันเป็นอำนาจและหน้าที่ของเจ้าอาวาสในตำบลนั้นพึ่งปฏิบัติ
ในการนี้มีอำนาจตรวจตราชี้แจงแสดงความเห็น สั่งและแนะนำเจ้าอาวาสและภิกษุสามเณรในตำบลนั้นให้ปฏิบัติ เมื่อการนั้นไม่ขัดกับพระธรรมวินัย สังฆาณัติ กติกาสงฆ์ กฎองค์การ กฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการสงฆ์อำเภอ
มาตรา ๑๕ ในกรณีที่เจ้าคณะตำบลไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้เจ้าคณะอำเภอรักษาการแทน หรือจะมอบหมายให้กรรมการสงฆ์อำเภอหรือเจ้าอาวาสรูปใดรูปหนึ่งในเขตตำบลนั้นเป็นผู้รักษาการก็ได้ จนกว่าจะมีการแต่งตั้งใหม่
บทเบ็ดเตล็ด
มาตรา ๑๖ กรรมการสงฆ์จังหวัดก็ดี กรรมการสงฆ์อำเภอก็ดี แบ่งการคณะสงฆ์ ดังนี้
(๑) ส่วนกลาง มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับธุรการทั่วไปในเขตของตน เจ้าคณะจังหวัดหรือเจ้าคณะอำเภอเป็นผู้บังคับบัญชา
(๒) ส่วนเฉพาะ ซึ่งองค์การต่างๆจะได้ตั้งขึ้นในเขตนั้นๆ มีกรรมการสงฆ์ผู้บริหารในหน้าที่ขององค์การนั้นๆ เป็นผู้สั่งการโดยเฉพาะ
มาตรา ๑๗ เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เเละเจ้าคณะตำบล สังกัดองค์การปกครอง ต้องรับผิดชอบในการบริหารการคณะสงฆ์ในจังหวัด อำเภอ และตำบลที่ตนปกครอง
ส่วนกรรมการสงฆ์ผู้ได้รับแต่งตั้งให้บริหารการคณะสงฆ์ในหน้าที่ขององค์การใดต้องรับผิดชอบในหน้าที่ของตนต่อองค์การนั้น
กรรมการสงฆ์จังหวัด หรือกรรมการสงฆ์อำเภอทุกรูป ต้องรับผิดชอบร่วมกันในกิจการคณะสงฆ์ทั่วไปในจังหวัดหรือในอำเภอนั้น
ผู้รับสนองพระบัญชา
สมเด็จพระมหาวีรวงศ์
สังฆนายก
[1] ประกาศในแถลงการณ์คณะสงฆ์ เล่ม ๓๐ ภาคพิเศษ ฉบับที่ ๔ : ๑๖ พ.ย. ๒๔๘๕