ประกาศสังฆนายก
เรื่องระเบียบการแต่งตั้งพระคณาจารย์ [1]
———————
โดยที่เห็นสมควรจะวางระเบียบการแต่งตั้งพระคณาจารย์ขึ้นไว้ คณะสังฆมนตรีจึงลงมติให้วางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
๑. ระเบียบนี้ ให้เรียกว่า “ระเบียบการแต่งตั้งพระคณาจารย์”
๒. ให้ใช้รเบียบนี้ตั้งแต่วันประกาศในแถลงการณ์คณะสงฆ์เป็นต้นไป
๓. พระคณาจารย์ในระเบียบนี้ หมายถึงพระภิกษุผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษในฝ่ายปริยัติ ซึ่งได้รับแต่งตั้งโดยพระบรมราชโองการ
๔. พระภิกษุผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สมควรได้รับยกย่องให้เป็นพระคณาจารย์ ย่อมทำได้ ๓ ทาง
(๑) พระคณาจารย์ทางเทศนา
(๒) พระคณาจารย์ทางรจนา
(๓) พระคณาจารย์ทางคันถธุระ
๕. พระคณาจารย์มี ๓ ชั้น
(๑) พระคณาจารย์ตรี เทียบชั้นเจ้าคณะอำเภอ
(๒) พระคณาจารย์โท เทียบชั้นเจ้าคณะจังหวัด
(๓) พระคณาจารย์เอก เทียบชั้นเจ้าคณะตรวจการ
๖. คุณสมบัติทั่วไปของพระคณาจารย์
(๑) ได้บำเพ็ญศาสนกิจในทางนั้น ๆ จนเป็นที่ปรากฏในคณะสงฆ์และประชาชน
(๒) เป็นนักธรรมหรือเปรียญ
(๓) เป็นครูสอนธรรมหรือบาลี
(๔) เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมหรือบาลีสนามหลวง
(๕) มีความประพฤติเรียบร้อยตามพระวินัย
(๖) มีอายุพรรษาสมควรแก่ตำแหน่ง
พระคณาจารย์ตรี
๗.พระคณาจารย์ตรีทางเทศนา ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะ ดังนี้
(๑) เป็นนักธรรมชั้นเอกหรือเป็นเปรียญ
(๒) ได้เทศนาโดยปฏิภาณ สอนประชาชนไม่น้อยกว่า ๓ ปี ในความรับรอง
ของคณะสงฆ์ หรือได้แต่งเทศนาไม่น้อยกว่า ๕ กัณฑ์ ซึ่งคณะสงฆ์รับรอง
๘. พระคณาจารย์ตรีทางรจนา ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะทาง ดังนี้
(๑) เป็นเปรียญ
(๒) ได้แต่งหนังสือว่าด้วยคำสอนทางพระพุทธศาสนาไม่น้อยกว่า ๕๐ หน้า พิมพ์ดีดหน้าละ ๒๐ บรรทัด ซึ่งคณะสงฆ์รับรองแล้ว หรือได้แปลหนังสือที่เป็นความรู้ทางศาสนาไม่น้อยกว่า ๑๐๐ หน้าพิมพ์ดีดหน้าละ ๒๐ บรรทัด ซึ่งคณะสงฆ์รับรองแล้ว
๙. พระคณาจารย์ตรีทางคันถธุระ ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะทาง ดังนี้
(๑) เป็นเปรียญตั้งแต่ ๔ ประโยคขึ้นไป
(๒) ได้แต่งตำราอันเป็นประโยชน์แก่การศึกษาธรรมหรือบาลี ซึ่งคณะสงฆ์รับรองแล้ว หรือ
(๓) เป็นครูสอนบาลีมาแล้วไม่ต่ำกว่า ๕ ปี และมีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวงไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๐ หรือเป็นกรรมการตรวจประโยคธรรม หรือบาลีสนามหลวงมาแล้วไม่น้อยกว่า ๓ ปี หรือได้จัดตั้งสำนักเรียนบาลีขึ้นเป็นหลักฐาน มีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวงไม่น้อยกว่า ๓ ปี ในระยะติดต่อกัน
พระคณาจารย์โท
๑๐.พระคณาจารย์โททางเทศนาต้องมีคุณสนบัติเฉพาะดังนี้
(๑) เป็นเปรียญตั้งแต่ ๔ ประโยคขึ้นไป หรือเป็นพระคณาจารย์ตรี ทางใดทางหนื่งมาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี
(๒) ได้เทศนาโดยปฏิภาณสอนประชาชนไม่น้อยกว่า ๕ ปี ในความรับรองของ
คณะสงฆ์ หรือได้แต่งเทศนาไม่น้อยกว่า ๑๐ กัณฑ์ ซึ่งคณะสงฆ์รับรองแล้ว
(๓) เป็นครูสอน นักธรรม หรือ บาลี และมีนักเรียนข้าสอบได้ในสนามหลวง หรือ
(๔) เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมหรือบาลีสนามหลวงมาแล้วไม่น้อยกว่า ๓ ปี หรือได้จัดตั้งสำนักเรียนธรรมหรือบาลีขึ้นเป็นหลังฐาน มีนักเรียนนสอบได้ในสนามหลวง
๑๑.พระคณาจารย์โททางรจนา ต้องมีคุณสนบัติเฉพาะดังนี้
(๑) เป็นเปรียญตั้งแต่ ๕ ประโยคขึ้นไป หรือเป็นพระคณาจารย์ตรี ทางใดทางหนึ่งมาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี
(๒) ได้แต่งหนังสือว่าด้วยคำสอนทางพระพุทธศาสนาไม่น้อยกว่าร้อย ๑๐๐ หน้าพิมพ์ดีดหน้าละ ๒๐ บรรทัดซึ่งคณะสงฆ์รับรองแล้ว หรือได้แปลหนังลือที่เป็นความรู้ทางศาสนาไม่น้อยกว่า ๒๐๐ หน้าพิมพ์ดีด หน้าละ ๒๐ บรรทัด ซึ่งคณะสงฆ์รับรองแล้ว
(๓) เป็นครูสอนธรรมหรือบาลีมาแล้วไม่น้อยกว่า ๓ ปี และมีนักเรียนเข้าสอบได้ในสนามหลวง หรือ
(๔) เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมหรือบาลีสนามหลวงไม่น้อยกว่า ๓ ปี หรือเป็นกรรมการออกข้อสอบธรรม หรือบาลีสนามหลวงไม่น้อยกว่า ๓ ปี หรือได้จัดตั้งสำนักเรียนธรรมหรือบาลีขึ้นเป็นหลังฐานมีนักเรียนเข้าสอบได้ในสนามหลวง
๑๒.พระคณาจารย์โททางคันธุระ ต้องมีคุณสนบัติเฉพาะดังนี้
(๑) เป็นเปรียญตั้งแต่ ๖ ประโยคขึ้นไป หรือเป็นพระคณาจารย์ตรี ทางใดทางหนึ่งมาแล้วไม่น้อยกว่า ๓ ปี
(๒) ได้ชำระปกรณ์ไม่น้อยกว่า ๑ เรื่อง ซึ้อคณะสงฆ์รับลองแล้ว
(๓) เป็นครูสอนบาลีมาแล้วไม่น้อยกว่า ๓ ปี และมีนักเรียนเข้าสอบได้ในสนามหลวงไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๐ หรือ
(๔) เป็นกรรมการตรวจประโยคบาลีสนามหลวงมาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี หรือเป็นกรรมการออกข้อสอบ ธรรมหรือบาลีสนามหลวงไม่น้อยกว่า ๒ ปี หรือได้จัดตั้งสำนักเรียนบาลีขึ้นเป็นหลักฐาน และมีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวง ตั้งแต่ชั้นประโยค ๔ ขึ้นไป
พระคณาจารย์เอก
๑๓. พระคณาจารย์เอกทางศาสนา ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะดังนี้
(๑) เป็นเปรียญตั้งแต่ ๖ ประโยคขึ้นไป หรือเป็นพระคณาจารย์โททางใดทางหนึ่งมาแล้วไม่น้อยกว่า ๓ ปี
(๒) ได้เทศนาโดยปฏิภาณสอนประชาชนใน้อยกว่า ๑๐ ปี ในความรับรองของคณะสงฆ์ หรือได้แต่งเทศนาไม่น้อยกว่า ๒๐ กัณฑ์ ซึ่งคณะสงฆ์รับรองแล้ว
(๓) เป็นครูสอนธรรมหรือบาลีมาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี และมีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวง
(๔) เป็นกรรมการตรวจประโยคนักธรรมหรือบาลีสนามหลวงม่น้อยกว่า ๕ ปี หรือเป็นกรรมการออกข้อสอบประโยคธรรมหรือบาลีสนามหลวงมาแล้วไม่น้อบกว่า ๕ ปี หรือได้จัดตั้งสำนักเรียนธรรมหรือบาลีขึ้นเป็นหลักฐาน มีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวง
๑๔. พระคณาจารย์เอกทางรจนา ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะ ดังนี้
(๑) เป็นเปรียญตั้งแต่ ๖ ประโยคขึ้นไป หรือเป็นพระคณาจารย์โททางใดทางหนึ่งมาแล้วไม่น้อยกว่า ๓ ปี
(๒) ได้แต่งตั้งหนังสือว่าด้วยคำสอนทางพระพุทธศาสนาไม่น้อยกว่า ๑๕๐ หน้าพิมพ์ดีด หน้าละ ๒๐ บรรทัดซึ้งคณะสงฆ์รับรองแล้ว หรือได้แปลหนังลือที่เป็นความรู้ทางศาสนาไม่น้อยกว่า ๓๐๐ หนาพิมพ์ดีด หน้าละ ๒๐ บรรทัด ซึ่งคณะสงฆ์รับรองแล้ว
(๓) เป็นครูสอนธรรมหรือบาลีมาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี และมีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวง
(๔) เป็นกรรมการตรวจประโยคนักธรรม หรือ บาลีสนามหลวงมาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี หรือเป็นกรรมการออกข้อสอบธรรม หรือ บาลีสนามหลวงมาแล้วไม่น้อบกว่า ๕ ปี หรือได้จัดตั้งสำนักเรียนธรรมหรือบาลีขึ้นเป็นหลักฐาน มีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวง
๑๕. พระคณาจารย์เอกทางคันถธุระ ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะ ดังนี้
(๑) เป็นเปรียญตั้งแต่ ๗ ประโยคขึ้นไป หรือเป็นพระคณาจารย์โททางใดทางหนึ่งมาแล้วไม่น้อยกว่า ๓ ปี
(๒) ได้ชำระปกรณ์ไม่น้อยกว่า ๒ เรื่อง ซึ่งคณะสงฆ์รับรองแล้ว
(๓) เป็นครูสอนบาลีมาแล้วไม่น้อยกว่า ๑๐ ปี และมีนักเรีองสอบได้ในสนามหลวงไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๒๐
(๔) เป็นกรรมการตรวจประโยคนักธรรมหรือบาลีสนามหลวงมาแล้วไม่น้อยกว่า ๑๐ ปี หรือเป็นกรรมการออกข้อสอบธรรมหรือบาลีสนามหลวงมาแล้วไม่น้อบกว่า ๕ ปี หรือได้จัดตั้งสำนักเรียนธรรมหรือบาลีขึ้นเป็นหลักฐาน มีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวงตั้งแต่ชั้นประโยค ๖ ขึ้นไป
๑๖. ให้เจ้าสำนัก หรือเจ้าอาวาส เจ้าคณะ เสนอชื่อพระภิกษุผู้คุณวุฒิพิเศษ สมควรได้รับยกย่องเป็นพระคณาจารย์ชั้นนั้น ๆ พร้อมทั้งคุณสมบัติต่อเจ้าคณะลำดับชั้นจนถึงองค์การศึกษา ถ้าได้แต่งหรือได้ชำระหนังลือ ให้เสนอฉบับหนังสือนั้นด้วย
๑๗.เมื่อคณะมนตรีว่าการองค์การศึกษาพิจารณาเห็นสมควรแล้ว ให้นำเสนอคณะสังฆมนตรีต่อไป
๑๘. เมื่อคณะมนตรี พิจารณาลงมติเห็นชอบแล้วสังฆนายกจะได้ดำเนินการขอพระราชทานเพื่อแต่งตั้ง
๑๙. ให้คณะสังฆมนตรีว่าการองค์การศึกษา รักษาการตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พุทศักราช ๒๔๘๘
พระเทพเวที
สังฆมนตรีว่าการองค์การเผยแผ่
รักษาการแทนสังฆนายก
[1] ประกาศในแถลงการณ์คณะสงฆ์ เล่ม ๓๓ ภาค ๒ เดือนเมษายน – มิถุนายน ๒๔๘๘