ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ
ว่าด้วยการยกวัดร้างเป็นวัดมีพระสงฆ์
พ.ศ. ๒๕๑๔*
————————-
กระทรวงศึกษาธิการด้วยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม ได้พิจารณาเห็นว่าวัดใดร้างภิกษุไม่อาศัย และยังมิได้ประกาศยุบเลิก วัดนั้นยังคงสภาพเป็นนิติบุคคลอยู่ เมื่อทางคณะสงฆ์พิจารณาเป็นการสมควรให้ยกเป็นวัดมีพระสงฆ์ย่อมจะดำเนินการได้ ตามระเบียบที่กระทรวงศึกษาธิการได้วางไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการยกวัดร้างเป็นวัดมีพระสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๑๔”
ข้อ ๒ ให้ยกเลิกคำสั่งหรือระเบียบอื่นใดที่ขัดหรือแย้งต่อระเบียบนี้
ข้อ ๓ ให้ใช้ระเบียบนี้ตั้งแต่วันถัดวันประกาศเป็นต้น
ข้อ ๔ เมื่อเจ้าคณะอำเภอพิจารณาเห็นว่า วัดร้างแห่งใดประกอบด้วยลักษณะดังนี้
๔.๑ สมควรเป็นที่พำนักของพระภิกษุสงฆ์ และไม่ขัดขวางต่อราชการแผ่นดิน
๔.๒ มีประชาชนเพียงพอที่จะทำนุบำรุงให้เจริญได้
๔.๓ ตั้งอยู่ห่างจากวัดมีพระสงฆ์พอสมควร
๔.๔ มีเนื้อที่พอที่จะขยายให้เป็นวัดเจริญได้ ซึ่งไม่ต่ำกว่า ๖ ไร่
๔.๕ ประชาชนพร้อมที่จะสร้างเสนาสนะขึ้นเป็นที่พำนักของพระภิกษุสงฆ์ได้
๔.๖ สามารถหาพระภิกษุสงฆ์ไปปกครองดูแลได้
ให้เจ้าคณะอำเภอนั้นรายงานขอยกวัดเป็นมีพระสงฆ์ ต่อเจ้าคณะจังหวัดตามแบบที่อธิบดีกรมการศาสนากำหนด พร้อมด้วยแผนที่แสดงเขตที่ดินของวัด แผนผังแสดงสิ่งก่อสร้างที่มีอยู่และแผนผังสิ่งที่จะสร้างขึ้นใหม่ในอนาคต
เมื่อเจ้าคณะจังหวัดได้รับรายงานแล้ว ให้เสนอเรื่องราวไปยังเจ้าคณะคณะภาคและให้เจ้าคณะภาคพิจารณาตรวจสอบสถานที่ที่จะยกเป็นวัดมีพระสงฆ์ เมื่อเห็นสมควรให้ส่งเรื่องไปยังกรมศาสนาเพื่อพิจารณา กรมการศาสนาเห็นสมควรให้รายงานขอรับความเห็นชอบต่อกระทรวงศึกษาธิการแล้วเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณาอนุมัติ
เมื่อมหาเถรสมาคมอนุมัติแล้ว ให้เสนอกระทรวงศึกษาธิการ ประกาศแจ้งความยกวัดนั้นขึ้นเป็นวัดมีพระสงฆ์ แล้วแจ้งให้คณะผู้ปกครองวัดนั้นได้รับไว้ในความปกครองดูแลและแจ้งจังหวัดทราบต่อไป
ข้อ ๕ ให้อธิบดีกรมศาสนามีหน้าที่รักษาการให้เป็นไปตามระเบียบนี้ และให้กำหนดแบบรายงานการขอยกวัดร้างเป็นวัดมีพระสงฆ์ เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามระเบียบนี้
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๔
(ลงนาม) สุกิจ นิมมานเหมินท์
(สุกิจ นิมมานเหมินท์)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
* จากแถลงการณ์คณะสงฆ์ เล่ม ๕๙ ตอนที่ ๔ วันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๑๔