กฎองค์การปกครอง
ว่าด้วยตำบล [1]
ออกตามความในมาตรา ๔ และมาตรา ๗ แห่งสังฆาณัติ
ระเบียบบริหารการคณะสงฆ์ส่วนภูมิภาค พุทธศักราช ๒๔๘๕
———————-
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔ และมาตรา ๗ แห่งสังฆาณัติระเบียบบริหารการคณะสงฆ์ส่วนภูมิภาค พุทธศักราช ๒๔๘๕ สังฆมนตรีว่าการองค์การปกครองออกกฎไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ตำบลในกฎนี้ หมายความว่า เขตที่ควรมีเจ้าคณะตำบลเป็นผู้บริหารงานทางสงฆ์ โดยมีวัดตั้งแต่ ๕ วัดขึ้นไป
ข้อ ๒ การกำหนดเขตตำบลนั้น โดยปกติ ให้อนุโลมตามเขตตำบลแห่งราชอาณาจักร เว้นแต่กรณีพิเศษดังที่กำหนดไว้ในกฎนี้
ข้อ ๓ ตำบลที่มีวัดต่ำกว่า ๕ วัด ให้รวมขึ้นในปกครองของเจ้าคณะตำบลอื่นซึ่งมีเขตติดต่อกัน
ถ้ารวมวัดใน ๒ ตำบลเข้าด้วยกัน มีจำนวนวัดตั้งแต่ ๑๐ วัดขึ้นไป เพื่อสะดวกแก่การปกครองหรือเพื่อความเจริญแห่งคณะสงฆ์ จะแบ่งวัดใน ๒ ตำบลที่รวมกันนี้เป็น ๒ เขต หรือหลายเขต ให้มีเจ้าคณะตำบลเขตละ ๑ รูปก็ได้
ในกรณีเช่นนี้ การเรียกชื่อตำบล จะเรียกอนุโลมตามชื่อตำบลแห่งราชอาณาจักรก็ได้ หรือจะเรียกชื่อตำบลตามเขตว่า ตำบลชื่อนี้เขตหนึ่ง ตำบลชื่อนี้เขตสอง ก็ได้ แล้วแต่ความเหมาะสม
ข้อ ๔ ตำบลที่มีเขตติดต่อกันสามตำบลขึ้นไป ถ้าแต่ละตำบลมีวัดไม่ถึง ๕ วัด หากรวมวัดในตำบลเหล่านั้นเข้าด้วยกัน มีจำนวน ๕ วัดขึ้นไป ก็ให้รวมยกขึ้นเป็นเขตตำบลเดียว หรือหลายเขตแล้วแต่เหมาะสม ให้มีเจ้าคณะตำบลเป็นผู้บริหารเขตละ ๑ รูป การเรียกชื่อเจ้าคณะตำบล ให้อนุโลมตามข้อ ๓
ข้อ ๕ แม้ตำบลที่มีวัดครบ ๕ วัด จะให้รวมขึ้นในปกครองของเจ้าคณะตำบลอื่นที่มีเขตติดต่อกันก็ได้ ถ้าเป็นการเหมาะสมและจำเป็นในทางปกครอง
ข้อ ๖ ตำบลที่มีวัดเกิน ๑๐ วัด จะแยกวัดที่เกินนั้นไปรวมกับตำบลที่มีเขตติดต่อกันก็ได้ ถ้าเป็นความสะดวกในทางปกครอง
ข้อ ๗ ในตำบลที่มีวัดเกินกว่า ๑๐ วัดขึ้นไป เพื่อสะดวกแก่การปกครอง หรือเพื่อความเจริญแห่งคณะสงฆ์ จะแบ่งเขตตำบลออกเป็น ๒ เขต หรือหลายเขต และให้มีเจ้าคณะตำบลเขตละรูปก็ได้
ในกรณีเช่นนี้ การเรียกชื่อเจ้าคณะตำบล ให้เรียกตามเขตว่า เจ้าคณะตำบลนี้เขตหนึ่ง เขตสอง เป็นต้น
ข้อ ๘ ในกรณีที่มีการรวมวัดในหลายตำบล ให้ขึ้นในปกครองของเจ้าคณะตำบลรูปเดียว ถ้ารวมกันเฉพาะสองตำบล ให้คงชื่อตำบลไว้ทั้งคู่ ถ้ารวมกันเกินกว่านั้น ให้คงชื่อไว้แต่ตำบลเดียว จะคงชื่อตำบลใดไว้ แล้วแต่จะพิจารณาเห็นสมควร
ข้อ ๙ ให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสงฆ์อำเภอหรือกิ่งอำเภอจะพิจารณากำหนดเขตตำบล จำนวนวัดในตำบล และชื่อตำบล ตามกฎนี้ เสนอคณะกรรมการสงฆ์จังหวัด เมื่อด้รับอนุมัติแล้ว ให้ถือเป็นเขตตำบลในทางปกครองคณะสงฆ์ต่อไป
ข้อ ๑๐ ให้คณะกรรมการสงฆ์จังหวัดแจ้งรายการเขตตำบลตามที่ได้รับอนุมัติไปแล้วนั้นต่อกรมการศาสนาผ่านเจ้าคณะตรวจการ เพื่อนำเสนอสังฆมนตรีว่าการองค์การปกครองรับทราบ
ข้อ ๑๑ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเขตตำบลที่ได้รับอนุมัติไปแล้ว ให้ปฏิบัติตามข้อ ๙ และข้อ ๑๐ แห่งกฎนี้
ตราไว้ ณ วันที่ ๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๔๘๗
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์
สังฆมนตรีว่าการองค์การปกครอง
[1] จากแถลงการณ์คณะสงฆ์ เล่ม ๓๒ เดือนกันยายน และตุลาคม ๒๔๘๗
Hits: 0