ระเบียบมหาเถรสมาคม กำหนดหลักเกณฑ์ให้มีรองเจ้าคณะอำเภอและรองเจ้าคณะจังหวัด พ.ศ. ๒๕๓๗

ระเบียบมหาเถรสมาคม

กำหนดหลักเกณฑ์ให้มีรองเจ้าคณะอำเภอและรองเจ้าคณะจังหวัด

พ.ศ. ๒๕๓๗ [1]

—————-

      อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๕ ตรี แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ และมาตรา ๒๒ วรรค ๒ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕  กฎมหาเถรสมาคมวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้

      ข้อ ๑ ระเบียบมหาเถรสมาคมนี้ เรียกว่า “ระเบียบมหาเถรสมาคม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ให้มีรองเจ้าคณะอำเภอและรองเจ้าคณะจังหวัด พ.ศ. ๒๕๓๗”

      ข้อ ๒ ระเบียบมหาเถรสมาคมนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจาวันประกาศในแถลงการณ์คณะสงฆ์เป็นต้นไป

      ข้อ ๓ ตั้งแต่วันใช้ระเบียบมหาเถรสมาคมนี้ ให้ยกเลิกระเบียบมหาเถรสมาคมกำหนดหลักเกณฑ์ให้มีรองเจ้าคระอำเภอและรองเจ้าคณะจังหวัด พ.ศ. ๒๕๐๗

      ข้อ ๔ ในเขตปกครองท้องที่อำเภอฝ่ายคณะสงฆ์ใด ถ้า

            (ก) มีวัดไม่ต่ำกว่า ๓๐ วัด ให้เจ้าคณะภาคพิจารณาตามข้อเสนอของเจ้าคณะจังหวัด ว่าสมควรจะมีรองเจ้าคณะอำเภอหรือไม่ ถ้าพิจารณาเห็นสมควร ก็ให้อำเภอนั้นมีรองเจ้าคณะอำเภอได้ ๑ รูป

            (ข) มีวัดไม่ต่ำกว่า ๔๕ วัด ให้อำเภอนั้นมีรองเจ้าคณะอำเภอได้ ๑ รูป

            (ค) มีวัดไม่ต่ำกว่า ๖๐ วัด ให้เจ้าคณะภาคพิจารณาตามข้อเสนอของเจ้าคณะจังหวัด ว่าสมควรจะมีรองเจ้าคณะอำเภอถึง ๒ รูปหรือไม่ ถ้าพิจารณาเห็นสมควร ก็ให้อำเภอนั้นมีรองเจ้าคณะอำเภอถึง ๒ รูปได้

            (ฆ) มีวัดไม่ต่ำกว่า ๑๐๑ วัด ให้อำเภอนั้นมีรองเจ้าคณะอำเภอได้ ๒ รูป

      ข้อ ๕ ในเขตปกครองท้องที่จังหวัดฝ่ายคณะสงฆ์ใด ถ้า

            (ก) มีวัดไม่ต่ำกว่า ๑๕๐ วัด ให้เจ้าคณะใหญ่พิจารณาตามข้อเสนอของเจ้าคณะภาค ว่าสมควรจะมีรองเจ้าคณะจังหวัดหรือไม่ ถ้าพิจารณาเห็นสมควร ก็ให้จังหวัดนั้นมีรองเจ้าคณะจังหวัดได้ ๑ รูป

            (ข) มีวัดไม่ต่ำกว่า ๒๐๐ วัด ให้จังหวัดนั้นมีรองเจ้าคณะจังหวัดได้ ๑ รูป

            (ค) มีวัดไม่ต่ำกว่า ๔๐๐ วัด ให้เจ้าคณะใหญ่พิจารณาตามข้อเสนอของเจ้าคณะภาค ว่าสมควรจะมีรองเจ้าคณะจังหวัดถึง ๒ รูปหรือไม่ ถ้าพิจารณาเห็นสมควร ก็ให้จังหวัดนั้นมีรองเจ้าคณะจังหวัดถึง ๒ รูปได้

            (ฆ) มีวัดไม่ต่ำกว่า ๕๐๐ วัด ให้อำจังหวัดนั้นมีรองเจ้าคณะจังหวัดได้ ๒ รูป

      ข้อ ๖ ในเขตปกครองท้องที่อำเภอหรือจังหวัดฝ่ายคณะสงฆ์มีจำนวนวัดไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามข้อ ๔ (ก) หรือ ข้อ ๕ (ก) แต่มีความจำเป็นอย่างแท้จรองเนื่องในการปกครองคณะสงฆ์ สมควรมีรองเจ้าคณะอำเภอหรือรองเจ้าคณะจังหวัดได้เป็นกรณีพิเศษ ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของมหาเถรสมาคมพิจารณา

ประกาศ ณ วันที่ ๒๓  มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๗

(สมเด็จพระญาณสังวร)

สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก

 ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม


[1]  จากแถลงการณ์คณะสงฆื เล่ม ๘๒ ตอนที่ ๗ :  ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๓๗