ตอนที่ ๔ วิธียกเจ้าคณะและรองเจ้าคณะ เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะ

ตอนที่ ๔

วิธียกเจ้าคณะและรองเจ้าคณะ

เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะ

—————–

        ในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๐๕  มาตรา ๒๑ และ ๒๒  บัญญัติว่า การปกครองคณะสงฆ์ส่วนภูมิภาค ให้จัดแบ่งเขตปกครองเป็น ภาค จังหวัด อำเภอ และตำบล และการกำหนดเขตปกครองดังกล่าว ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎมหาเถร-สมาคม พร้อมกับบัญญัติให้มีพระภิกษุผู้ปกครองตามชั้นตามลำดับ คือ เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล และเมื่อมหาเถรสมาคมเห็นสมควรจะจัดให้มีรองเจ้าคณะชั้นนั้น ๆ เป็นผู้ช่วยเจ้าคณะก็ได้  และในมาตรา ๒๓ บัญญัติว่า การแต่งตั้งถอดถอนพระอุปัชฌาย์ เจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส พระภิกษุอันเกี่ยวกับตำแหน่งปกครองคณะสงฆ์ตำแหน่งอื่น ๆ  และไวยาวัจกรให้เป็นไปตามหลัก เกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎมหาเถรสมาคม  ดังนั้น เมื่อตรากฎมหาเถรสมาคม ว่าด้วยระเบียบการปกครองคณะสงฆ์ และกฎมหาเถรสมาคม ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ  ได้กำหนดให้มีรองเจ้าคณะชั้นต่าง ๆ เลขานุการเจ้าคณะ เลขานุการรองเจ้าคณะและที่ปรึกษาเจ้าคณะ พร้อมทั้งหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งพระภิกษุให้ดำรงตำแหน่งที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ และตำแหน่งที่บัญญัติเสริมเข้า  เพราะตำแหน่งเลขานุการและตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะ เป็นตำแหน่งพระภิกษุอันเกี่ยว กับตำแหน่งปกครองคณะสงฆ์รายรอบตำแหน่งอื่นๆ นับเป็นตำแหน่งอุปถัมภ์การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าคณะและรองเจ้าคณะโดยแท้ ตำแหน่งเลขานุการเป็นตำแหน่งที่ทำหน้าที่การเลขานุการ ได้กล่าวไว้ในตอนที่ ๒ แล้ว ในตอนนี้จะกล่าวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะ ดังนี้

        ๑) หลักเกณฑ์  ให้มี

                   () ปรึกษาเจ้าคณะในส่วนภูมิภาค

                   () เพื่อยกย่องเชิดชูเจ้าคณะและรองเจ้าคณะ

                   () เพื่อมีหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่เจ้าคณะชั้นนั้น ๆ

        ๒) คุณสมบัติ

                   () เป็นเจ้าคณะหรือรองเจ้าคณะในส่วนภูมิภาค หรือ

                   () เคยเป็นเจ้าคณะหรือรองเจ้าคณะในส่วนภูมิภาค และ

                   () ได้ปฏิบัติหน้าที่มาโดยเรียบร้อยจนมีอายุครบ ๘๐ ปีบริบูรณ์ และ

                   () ไม่ทุพลภาพหรือ พิการ

        ๓)  วิธีการแต่งตั้ง

                   () ผู้บังคับบัญชาใกล้ชิดเสนอตามลำดับจนถึงมหาเถรสมาคม

                   () มหาเถรสมาคมพิจารณาลงมติ

                   () สมเด็จพระสังฆราชมีพระบัญชาแต่งตั้งตามมติมหาเถรสมาคม

        ข้อบังคับ   ในเมื่อมีอายุ ๘๐ ปีบริบูรณ์แล้ว  ให้ผู้บังคับบัญชาใกล้ชิดดำเนินการเพื่อยกย่องเป็นที่ปรึกษา เว้นแต่ทุพพลภาพหรือพิการ 

        ข้อผ่อนผัน

                   ) ยังมีความเหมาะสม  หรือ

                   ) หาผู้ดำรงตำแหน่งนั้นไม่ได้  หรือ

                   ) หาได้แต่ไม่เหมาะสม

                ในกรณีเช่นนี้ มหาเถรสมาคมจะพิจารณาให้ดำรงตำแหน่งเดิมต่อไปอีกไม่เกิน ๓ ปี เฉพาะกรณี

               อนึ่ง แม้อายุยังไม่ครบ ๘๐ ปี ก็ดำเนินการยกย่องได้ ถ้าผู้บังคับบัญชาใกล้ชิดเห็นเป็นการเหมาะสม โดยถือการปฏิบัติตามมติมหาเถรสมาคม ที่ ๓๗๐/๒๕๔๑  ตีความกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๒๔  (พ.ศ.๒๕๔๑)   ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ  เป็นหลักดำเนินการ

Hits: 15