ส่วนที่ ๔ การแต่งตั้งผู้ปกครองวัด

ส่วนที่ ๔

การแต่งตั้งผู้ปกครองวัด

—————-

      วัดเป็นหน่วยงานปกครองและหน่วยดำเนินกิจการคณะสงฆ์และกิจการพระศาสนาที่สำคัญที่สุด  และเป็นฐานสำคัญยิ่งของคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา หลัก เกณฑ์และวิธีการต่าง ๆ เกี่ยวกับวัด    ทรงตราไว้ในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์เกือบทั้งสิ้น เช่นเดียวกับบทบัญญัติว่าด้วยมหาเถรสมาคมอันเป็นสถาบันสูงสุด วัดมีฐานะเป็นนิติ-บุคคลคือบุคคลตามกฎหมาย ตามความในมาตรา ๓๑ และมาตรา ๑๙ แห่งพระราช-บัญญัติคณะสงฆ์ ฉบับที่ ๒ (พ.ศ.๒๕๓๕ ) วัดจึงได้รับการคุ้มครองจากบทบัญญัติแห่งประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์และกฎหมายอื่น ๆ วัดทั้งหลายย่อมมีสิทธิและหน้าที่ต่าง ๆ ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังเช่นบุคคลธรรมดา เว้นแต่สิทธิและหน้าที่ที่จะพึงมีได้เฉพาะบุคคลธรรมดา แต่เพราะวัดมิใช่บุคคลธรรมดา แสดงเจตนาในการใช้สิทธิและหน้าที่เองมิได้  จึงจำเป็นต้องมีผู้แทน ทรงตราไว้ในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ มาตรา ๓๑ วรรค ๓ ว่า เจ้าอาวาสเป็นผู้แทนของวัดในกิจการทั่วไป ดังนั้น เจ้าอาวาสจึงเป็นทั้งผู้ปกครองวัดตามมาตรา ๓๖ และเป็นผู้แทนวัดตามมาตรา ๓๑ วรรค ๓ ทั้งมีฐานะเป็นเจ้าพนักงานตามความในประมวลกฎหมายอาญา ตามมาตรา ๔๕ แห่งพระราช-บัญญัติคณะสงฆ์   เจ้าอาวาสเป็นเหมือนวิญญาณของวัด   ทุกวัดจะปราศจากเจ้าอาวาสมิได้ ในมาตรา ๓๖ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ บัญญัติว่า วัดหนึ่งให้มีเจ้าอาวาสรูปหนึ่งและถ้าเป็นการสมควรจะให้มีรองเจ้าอาวาสหรือผู้ช่วยเจ้าอาวาสด้วยก็ได้ และในมาตรา ๒๓ บัญญัติให้แต่งตั้งไวยาวัจกรเพื่อช่วยงานเจ้าอาวาสเกี่ยวกับการศาสน-สมบัติของวัด   จึงกล่าวได้ว่า เจ้าอาวาสคือผู้ปกครองบริหารกิจการทั้งมวลของวัด รองเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เป็นผู้ช่วยการปกครองและการบริหารโดยทั่วไป และไวยาวัจกรเป็นผู้สนองงานการศาสนสมบัติ  วิธีปฏิบัติในการแต่งตั้งตำแหน่งดังกล่าวนี้  ย่อมแตกต่างกัน