ตอนที่ ๘ วิธีทัดทานคำสั่ง

ตอนที่ ๘

วิธีทัดทานคำสั่ง

——————

        ทัดทานคำสั่ง  หมายถึง    การที่ผู้ใต้บังคับบัญชาเสนอความเห็นทัดทานคำสั่งของผู้บังคับบัญชา  เป็นการห้ามหรือท้วงติงเพื่อถอนหรือแก้คำสั่ง    ขอขยายความตามข้อ ๔๕  แห่งกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่  ๒๔  (พ.ศ.๒๕๔๑)  ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ  ซึ่งมีความตอนหนึ่งว่า  พระสังฆาธิการต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำ สั่งของผู้บังคับบัญชา  ซึ่งสั่งชอบด้วยอำนาจหน้าที่  ถ้าไม่เห็นพ้องด้วยคำสั่งนั้น  ให้เสนอ ความเห็นทัดทานเป็นลายลักษณ์อักษร  ภายใน  ๑๕  วันนับแต่วันรับทราบคำสั่ง  ความข้อนี้เป็นจริยาพระสังฆาธิการ เป็นข้อที่พระสังฆาธิการต้องยึดเป็นหลักปฏิบัติ   แยกได้  ๓  ประเด็น  คือ

        ๑) ต้องเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา

        ๒) ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งสั่งชอบด้วยอำนาจหน้าที่

        ๓) ถ้าไม่เห็นพ้องด้วยคำสั่งนั้น ให้เสนอความเห็นทัดทานเป็นลายลักษณ์อักษร ภายใน  ๑๕ วัน นับแต่วันรับทราบคำสั่ง

        การปกครองคณะสงฆ์  จัดระบบการบังคับบัญชาตามชั้นตามฐานะ  และดำเนินมาได้ด้วยดี  เพราะพระสังฆาธิการเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา  ถ้าไม่เชื่อฟังแล้ว  ความเสีย หายจักมีแก่การคณะสงฆ์และการพระศาสนา  จึงบัญญัติให้เชื่อฟังผู้บังคับบัญชา  ถ้าไม่เชื่อฟังผู้บังคับบัญชา  ย่อมเป็นการละเมิดจริยาข้อนี้  แม้มิได้บัญญัติให้ผู้บังคับบัญชาต้องเชื่อฟังผู้ใต้บังคับบัญชาเลย   แต่ในทางปฏิบัติ  ผู้บังคับบัญชาต้องรับฟังข้อเสนอของผู้ใต้บังคับบัญชาโดยแท้

        มิใช่แต่จะบัญญัติให้ต้องเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาเท่านั้น   ยังบัญญัติให้ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา  ซึ่งสั่งโดยชอบด้วยอำนาจหน้าที่อีกส่วนหนึ่งด้วย  เพราะเพียง แต่เชื่อฟังแต่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง  การปกครองคณะสงฆ์หาเป็นไปได้ด้วยดีไม่  จึงบัญญัติ ให้ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา แต่ให้ปฏิบัติตามเฉพาะคำสั่งที่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่เท่านั้นเท่ากับบังคับให้ผู้บังคับบัญชาก็สั่งให้ปฏิบัติได้เฉพาะที่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ของตนเท่านั้น  แม้ในอำนาจหน้าที่ของตน ก็ต้องชอบด้วยข้อเท็จจริงและชอบด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเท่านั้น และคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่นั้น  ผู้รับคำสั่งไม่ต้องปฏิบัติตาม  เพราะมิได้กำหนดให้ปฏิบัติตาม  ทั้งกำหนดให้ผู้รับคำสั่งเสนอความเห็นทัดทานเป็นลายลักษณ์อักษรชี้แจงให้เห็นข้อผิดถูก  ไม่ชอบเพราะเหตุใดให้ชัดเจน  และอยู่ภายในระยะเวลา ๑๕ วัน นับแต่วันรับทราบคำสั่ง  ถ้าไม่ทัดทานเป็นการละเมิดจริยา ยิ่งถ้าทราบแล้วปฏิบัติตามหรือไม่ปฏิบัติตามก็ตาม    ถ้าเกิดความเสียหายขึ้น  ต้องรับ ผิดชอบร่วมกับผู้สั่ง    ดังนั้น  ผู้ใต้บังคับบัญชาเมื่อรับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาแล้ว  จะ ต้องตรวจตราให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนจึงปฏิบัติ  ถ้าไม่เห็นพ้องด้วยโดยประการใด  ต้องเสนอความเห็นทัดทาน เพื่อจะได้ให้ผู้บังคับบัญชาได้รับฟังความคิดเห็นและอาจต้องปฏิบัติตามข้อทัดทาน  แต่ถ้าได้ทัดทานแล้ว  ผู้สั่งมิได้ถอนคำสั่งหรือแก้คำสั่ง  ถ้าคำสั่งนั้นไม่ผิดพระวินัย  ต้องปฏิบัติตามแล้วรายงานจนถึงผู้สั่ง  ในการทัดทานคำสั่งนั้น  ให้ยึดวิธีปฏิบัติตามข้อ ๔๕  วรรค ๒  ซึ่งมีความว่า ในกรณีที่มีการทัดทานคำสั่งดังกล่าวในวรรคแรก ให้ผู้สั่งรายงานเรื่องทั้งหมดไปยังผู้บังคับบัญชาเหนือตนเพื่อพิจารณาสั่งการ เพราะอาศัยอำนาจตามความในวรรคนี้  ผู้สั่งจะยืนยันคำสั่งของตนเองมิได้  ถ้ายืนยันเองเป็นการละเมิดจริยา    แต่ถ้าพิจารณาคำทัดทานแล้วเห็นด้วยว่า  คำทัดทานถูกต้อง  คำสั่งของตนไม่ชอบ  ยอมแก้หรือถอนคำสั่งนั้นเองแบบสมยอม ก็พอได้แต่ไม่เหมาะ  ถ้ายังเห็นว่าคำสั่งของตนถูกต้อง  จะต้องให้ผู้บังคับบัญชาเหนือไปอีกชั้นหนึ่ง  เป็นผู้พิจารณาสั่งการ  วิธีปฏิบัติพอกล่าวได้ดังนี้

          ) ผู้รับคำสั่งต้องทำรายงานเป็นลายลักษณ์อักษร  ชี้แจงเหตุผลที่สั่งไม่ชอบพอ ควรแก่เหตุ  ยื่นต่อผู้สั่งภายใน  ๑๕  วันนับแต่วันได้รับคำสั่หง

          ผู้สั่งต้องรวบรวมพฤติการณ์รายงานไปยังผู้บังคับบัญชาเหนือตน       เพื่อพิจารณาสั่งการ

             ผู้บังคับบัญชาเหนือต้องพิจารณาสั่งการตามอำนาจหน้าที่และให้บริสุทธิ์ยุติธรรม

          ) ผู้บังคับบัญชาเหนือสั่งโดยประการใดเป็นอันยุติ