ตอนที่ ๗
วิธีขอยกวัดร้าง
ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่อาศัย
———————-
วัดใด ๆ ซึ่งตั้งเป็นวัดโดยชอบด้วยกฎหมาย ย่อมมีสภาพเป็นนิติบุคคล แต่เมื่อไม่มีพระภิกษุอาศัย ย่อมกลายเป็นวัดร้าง เหมือนคนสลบ ถ้ามิได้ประกาศยุบเลิก วัดนั้นย่อมมีสภาพเป็นนิติบุคคลอยู่ แต่เพราะไม่มีผู้แทนในกิจทั้งปวงและไม่มีพระภิกษุอยู่เลย วัดนั้นย่อมพักสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย เทียบได้กับคนสลบ แม้จะยังเป็นอยู่ก็หารู้รับเรื่องใด ๆ ได้ไม่ วัดร้างเช่นนี้ ย่อมตกเป็นภาระของเจ้าหน้าที่ฝ่ายราชอาณาจักรที่จะปกครองรักษา โดยถือตามความในมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติลักษณปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ.๑๒๑ เป็นต้นมา แม้ในมาตรา ๓๒ ทวิ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ก็กำหนดให้กรมการศาสนามีหน้าที่ปกครองดูแลรักษาวัดร้างเช่นเดียวกัน แต่วัดร้างนั้น เมื่อสงฆ์เห็นสมควรจะยกขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ก็ย่อมกระทำได้โดยแท้ เมื่อประชาชนมีหนังสือถึงเจ้าคณะอำเภอหรือนายอำเภอท้องที่ที่วัดร้างตั้งอยู่ วัดที่ควรจะยกขึ้นนั้น ต้องมีลักษณะ ๖ คือ
๑) วัดนั้นอยู่ในสภาพที่สมควรเป็นที่อยู่อาศัยและจำพรรษาของพระภิกษุ
๒) มีประชาชนในละแวกใกล้เคียงพอจะบำรุงวัดให้เจริญได้
๓) ตั้งอยู่ห่างจากวัดที่มีพระสงฆ์ไม่ต่ำกว่า ๒ กิโลเมตร
๔) มีที่ดินพอที่จะขยายวัดให้เจริญได้อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า ๖ ไร่ เว้นแต่มีเหตุจำเป็น
๕) พอใจในหลักฐานของประชาชนที่จะบูรณะปฏิสังขรณ์ได้
๖) สามารถจะจัดหาพระภิกษุมาอยู่อาศัยและอยู่จำพรรษาไม่น้อยกว่า ๔ รูป
วิธีปฏิบัติ ประชาชนต้องเป็นผู้จัดทำรายงาน เพื่อเสนอยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่อาศัยจำพรรษายื่นต่อเจ้าคณะอำเภอหรือนายอำเภอท้องที่ รายงานนั้นต้องมีเอกสารประกอบและแสดงรายการดังนี้
(๑) แผนที่แสดงเขตที่ตั้งวัดที่ขอยกให้ชัดเจน
(๒) ถาวรวัตถุหรือปูชนียวัตถุ (ถ้ามี) พร้อมทั้งผัง
(๓) ระบุจำนวนพระภิกษุที่จะเข้าอยู่อาศัยและผู้จะเป็นเจ้าอาวาส
(๔) บอกระยะห่างจากวัดที่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา
(๕) ระบุจำนวนหมู่บ้านและประชาชนที่จะให้วัดประกอบศาสนกิจ
หน้าที่เจ้าคณะอำเภอและนายอำเภอ พิจารณาให้ความเห็นชอบและส่งเรื่อง ราวไปยังเจ้าคณะจังหวัด
หน้าที่เจ้าคณะจังหวัดและผู้ว่าราชการจังหวัด พิจารณาให้ความเห็นชอบแล้วส่งไปยังกรมการศาสนา
หน้าที่กรมการศาสนา นำความเห็นเสนอมหาเถรสมาคม หากมีความสงสัยอาจ สอบถามเจ้าคณะภาคและเจ้าคณะใหญ่ เมื่อมหาเถรสมาคมเห็นชอบแล้ว ให้กรมการ-ศาสนาประกาศยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา แล้วแจ้งเจ้าคณะผู้ปกครองรับปกครองดูแล และแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด